วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

ผู้ส่งออกจี้เรือยกเลิกใบรับของ

928860ทั้งนี้ทราบมาว่าบริษัทเดินเรือในบางประเทศลงข่าวว่า จะปรับขึ้นราคาในเร็ว ๆ นี้แน่นอน โดยไม่ฟังการขอความร่วมมือจากกรมการค้าภายใน ซึ่งตรงนี้สภาฯจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากเป็นจริงตามกระแสข่าวก็อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้ด้วย

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้กรมการค้าภายในได้ขอให้ทางบริษัทเดินเรือชะลอ การปรับขึ้นค่าบริการเทอร์มินอลแฮนด์ลิ้ง ชาร์จออกไปก่อน 60 วัน หรือจากเดิมที่มีการประกาศปรับขึ้นในวันที่ 1 ม.ค. 58 ให้เลื่อนจนไปถึงสิ้นเดือนก.พ. ซึ่งในระหว่างนี้จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อข้อสรุปถึงอัตราที่เหมาะ สมในการจัดเก็บค่าบริการดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้กรมฯมองว่าอัตราที่เก็บ เพิ่มถึง 60-70% สูงเกินไป และก็มีผู้ที่ได้รับผลกระทบร้องเรียนมาให้รัฐบาลช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามหากทางบริษัทเดินเรือไม่ยอมชะลอ ก็คงต้องนำเข้าบัญชีบริการควบคุม ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ซึ่งทางตัวแทนที่เข้ามาร่วมประชุมจึงยินยอม และจะแจ้งไปยังบริษัทแม่เพื่อให้รับทราบถึงการชะลอครั้งนี้ต่อไป

นายวัลลภ กล่าวว่า ในส่วนของการปรับขึ้นค่าเทอร์มินอลแฮนด์ลิ้ง ชาร์จ ที่สายเดินเรือจะปรับขึ้น 70-75% นั้นทางสภาฯ ได้เสนอเรื่องนี้ให้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ช่วยเหลือแล้ว และคาดว่ากกร. จะเสนอเรื่องนี้เข้าที่หารือในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อ แก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือผู้ส่งออกถูกเอาเปรียบต่อไป

นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความคืบหน้าเรื่องการปรับขึ้นค่าเทอร์มินอลแฮนด์ลิ้ง ชาร์จ ที่สายเดินเรือจะปรับขั้นช่วงต้นเดือน ม.ค.นี้ สูงขึ้นกว่าเดิม 75% ล่าสุดกรมการค้าภายในได้ประชุมร่วมกับสายเดินเรือชะลอการขึ้นราคาดังกล่าว ออกไปก่อน 60 วัน และจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันศึกษาอัตราที่เหมาะสม ซึ่งในเรื่องนี้ถือเป็น สงครามการค้าที่กำลังเกิดขึ้น เพราะบริษัทใหญ่มีอำนาจต่อรองมากกว่า เป็นผลมาจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งต้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผู้ส่งออกต้องการให้บริษัทเดินเรือยกเลิกการเก็บค่าเอกสารใบตราส่ง หรือ ใบรับของกับผู้ส่งออก 1,200 บาทต่อชุด (12 แผ่น) เนื่องจากผู้ส่งออกได้จ่ายค่าขนส่งไปแล้ว แต่บริษัทเดินเรือกลับมาคิดค่าบริการเอกสารเพิ่มเติม จนเป็นภาระต่อผู้ส่งออกไทยปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งๆที่ต้นทุนของใบตราส่ง 1 บาทต่อเอกสาร 1 แผ่นเท่านั้น

“การเก็บ ค่าเอกสารของใบรับของเก็บ กับกรณีที่โรงหนังมาเก็บต้นทุนค่าตั๋ว และบริการตรวจตั๋วหนังเพิ่ม นอกเหนือจากที่ประชาชนต้องต้องจ่ายค่าภาพยนตร์ที่ โรงหนังคิดเหมาไปหมดแล้ว ซึ่งตรงนี้ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค เหมือนกับใบรับของที่สายเดินเรือเก็บ 1,200 บาทต่อชุด โดย 1 ชุดมี 12 แผ่น หรือต้นทุนตรงนี้แค่ชุดละ 12 บาทแต่มาเก็บกับผู้ส่งออกถึง 100 เท่า”

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: ผู้ส่งออกจี้เรือยกเลิกใบรับของ