ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพกล่าวอีกว่า กระทั่งวันที่ 8 ธ.ค. นายประเสริฐ ทีดี แฟนใหม่ของนางสมยศเดินทางมาตามหาผู้ตายที่ห้อง แต่ตนโกหกว่านางสมยศกลับไปแล้วพร้อมพาตนไปแจ้งความคนหายที่ สน.บางนา ก่อนแยกย้ายกันกลับ ตนเกรงว่าเรื่องจะรู้ถึงตำรวจและเกรงกลัวความผิดรีบนำรถเข็นไปซ่อนไว้ที่ข้างตลาดสำโรงก่อนเก็บข้าวของบางส่วนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอาศัยนอนบริเวณสวนหย่อมหน้าห้างเมเจอร์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการก่อนไปสมัครงานเป็นผู้ช่วยพ่อครัวที่ร้านอาหารแป๊ะยิ้มสาขา 2 จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุม
หลังการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่นำตัวนายแอ้ม ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้อง 207 บีเคเคอพาร์ตเมนต์ ซอยจ่าโสด 24 แขวงเขตบางนา กทม. เป็นจุดแรกที่นายแอ้มลงมือฆ่าหั่นศพนางสมยศ ก่อนนำศพออกไปทิ้ง ท่ามกลางกำลังชุดปราบจลาจลกว่า 50 นาย มารักษาความปลอดภัย ระหว่างทำแผนนายแอ้มมีสีหน้าเคร่งเครียดและร้องไห้ด้วยความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมี น.ส.วราภรณ์ นมัสการ อายุ 23 ปี ลูกสาวของนางสมยศและญาติเดินทางมาดูการทำแผนด้วยสีหน้าราบเรียบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพาผู้ต้องหาไปชี้จุดทิ้งถุงดำบรรจุชิ้นส่วนศพบริเวณซอยจ่าโสด 14 และบริเวณคลองบางนาซึ่งเป็นที่ทิ้งศีรษะของเหยื่อ ตามด้วยไปชี้จุดบริเวณป่าหญ้าข้างปั๊มเชลล์จุดทิ้งชิ้นส่วนศพทั้งหมดและจุดสุดท้ายบริเวณข้างตลาดสำโรงซึ่งเป็นที่นำรถเข็นไปซ่อนไว้ ตลอดการทำแผนมีประชาชนมามุ่งดูโฉมหน้านายแอ้มจำนวนมากพร้อมกับตะโกนด่าสาปแช่งนายแอ้มเป็นระยะแต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ส่วนผู้ต้องหานำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนนายแอ้ม ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าหั่นศพนางสมยศ แฟนสาวจริงโดยคบหากับผู้ตายมานานกว่า 2 ปี หลังรู้จักกันที่ร้านอาหารยำแซบ ย่านอโศก ขณะนั้นตนทำงานเป็นพ่อครัวของร้าน ภายหลังมาเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ด้วยกันในที่เกิดเหตุ ช่วยกันขายปลาหมึกย่าง ภายหลังนางสมยศย้ายไปทำงานเป็นกุ๊กที่ผับแห่งหนึ่งย่านถนนเกษตรฯ-นวมินทร์ และทราบว่านางสมยศ แอบปันใจไปให้กับชายอื่นและมีปากเสียงกันบ่อยครั้งเรื่องหึงหวง ต่อมานางสมยศย้ายไปพักอยู่ที่อื่น
นายแอ้มกล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา วันเกิดเหตุ นางสมยศเดินทางมาบอกเลิกกับตนอย่างเป็นทางการและนำสมุดบัญชีเงินฝากกับบัตรเอทีเอ็มมาคืน พร้อมกับบอกว่าอยู่กับตนไม่มีอนาคตทำให้ตนโมโหมาก จังหวะที่นางสมยศนั่งเผลอตนเลยโดดเตะก้านคอจนสลบแน่นิ่งไป ขณะนั้นไม่คิดว่านางสมยศจะเสียชีวิตจึงลากนางสมยศไปนอนพัก จากนั้นได้ออกไปขายปลาหมึกย่างตามปกติ กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น.วันเดียวกัน ตนกลับมาที่ห้องพักยังเห็นนางสมยศนอนแน่นิ่งอยู่ พอจับดูพบว่านางสมยศเสียชีวิตแล้วจึงล้มตัวลงกอดนางสมยศด้วยความโศกเศร้าเสียใจ พอตั้งสติได้ไม่รู้จะทำอย่างไรกับศพจึงลากศพไปล้างในห้องน้ำก่อนลากไปที่ระเบียงใช้มีดหั่นปลาหมึกที่มีอยู่ลงมือหั่นศพแฟนสาว
“ผมเริ่มลงมือตัดคอเป็นชิ้นแรก โดยใช้เวลาหั่นศพนานกว่า 3 ชม.จึงแล้วเสร็จ จากนั้นได้ออกไปซื้อถุงดำที่ร้านขายของชำมาบรรจุชิ้นส่วนของศพ พอถึงกลางดึกช่วงปลอดคนจึงนำถุงชิ้นส่วนลงมาจากห้องพักขึ้นรถจักรยานยนต์ซึ่งจอดอยู่ด้านข้างตึกไปโยนทิ้งที่ป่าหญ้าข้างปั๊มเชลล์ ถนนสรรพาวุธ โดยใช้เวลาขนศพไปทิ้งกว่า 3 รอบ ระหว่างที่เดินทางกลับรอบสุดท้ายพบว่ายังมีชิ้นส่วนศีรษะของนางสมยศวางอยู่ตะกร้าหน้ารถจึงได้โยนทิ้งบริเวณคลองบางนา และเข้าไปนอนในห้องพักตามปกติ” นายแอ้มกล่าว
วันที่ 15 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ รอง ผบก. พ.ต.อ.ภูมินทร์ สิงหะสุต ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พ.ต.อ.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผกก.สภ.สำโรงใต้และคณะร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายแอ้มหรือนายน้อยหรือนายธานี พ่อแก้ว อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 774/2557 โดยกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย พร้อมด้วยของกลาง รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีดำ ทะเบียน กรพ 5 ชุมพร โทรศัพท์มือถือของผู้ตาย 1 เครื่อง ชุดกุญแจห้องพัก เลขที่ 207 บีเคเค อพาร์ตเมนต์ ย่านบางนา กทม.
พล.ต.ท.อำนวยกล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.สำโรงใต้ และ สภ.สำโรงเหนือ สืบสวนจังหวัดและสืบสวนภูธรภาค 1 ให้เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากคนร้ายลงมือฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณเป็นคดีสะเทือนขวัญ กระทั่ง พ.ต.ท.รักศักดิ์ เมฆจินดา สว.สส.สภ.สำโรงเหนือ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ศรีเพ็ญประภา สว.สส.สภ.สำโรงใต้ สืบทราบว่าคนร้ายคือนายแอ้มได้หลบหนีไปทำงานเป็นผู้ช่วยพ่อครัวที่ร้านอาหารแป๊ะยิ้ม 2 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. จึงนำกำลังไปจับกุมตัวไว้ได้
พ่อค้าปลาหมึกย่างมือฆ่าหั่นศพกุ๊กแฟนสาว สารภาพแค้นที่ผู้ตายมาบอกเลิกแถมยังมาพูดดูถูกอยู่ด้วยไม่มีอนาคตเลยโดดเตะก้านคอจนสิ้นใจ แต่เข้าใจว่าแค่สลบปล่อยให้นอนพักผ่อน ก่อนไปขายปลาหมึกย่างตามปกติ ขากลับมาพบเหยื่อยังนอนท่าเดิมถึงรู้ว่าสิ้นใจแล้วเลยจัดการหั่นศพแยกชิ้นส่วนใส่ถุงดำ ขนใส่รถ จยย.นำไปทิ้ง ก่อนหนีไปสมัครงานเป็นผู้ช่วยพ่อครัวที่ร้านอาหารย่านบางค้อแต่ไม่รอด
จากคดีฆาตกรรมสยองขวัญฆ่าหั่นศพสาวเล็บแดงแยกชิ้นส่วนไปทิ้ง 2 ท้องที่ คือบริเวณป่ารกร้าง ข้างปั๊มน้ำมันเชลล์ ถนนสรรพาวุธ ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ ส่วนศีรษะติดในวงล้อยางรถยนต์แขวนไว้ริมตลิ่งป้องกันการกระแทกของเรือบริเวณท่าทรายเทพมงคล ริมคลองมหาวงษ์เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ภายหลังตรวจดีเอ็นเอแล้วยืนยันว่าเหยื่อฆ่าหั่นศพคือนางสมยศ นมัสการ อายุ 42 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ ทำงานเป็นกุ๊กในผับย่านถนนเกษตรฯ-นวมินทร์ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.หลังเดินทางไปหาแฟนเก่าชื่อนายแอ้ม ในอพาร์ตเมนต์ในซอยจ่าโสด 24 บางนา กรุงเทพฯ นายแอ้มเก็บเสื้อผ้าหลบหนีไป ภายหลังศาลออกหมายจับนายแอ้ม ผู้ต้องสงสัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งรางวัล 10,000 บาทสำหรับผู้แจ้งเบาะแสนำไปสู่การจับกุมในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบตัวฆาตกรฆ่าหั่นศพรายนี้ได้แล้ว โดยเมื่อเวลา 12.30 น.
แหล่งที่มา : ไทยรัฐ