จากการสอบสวน น.ส.สุภามาส หนึ่งในผู้บาดเจ็บ ให้การว่า ตนพร้อมผู้ตายและผู้บาดเจ็บ ได้นั่งท้ายรถกระบะคันเกิดเหตุไปเล่นน้ำสงกรานต์กันที่วัดป่างิ้ว ต.บ้านงิ้ว โดยมี นายบุญส่ง เป็นคนขับ ส่วนคนอื่นๆที่เหลือนั่งที่กระบะหลัง ซึ่งหลังจากเล่นน้ำกันเสร็จแล้ว จึงพากันเดินทางกลับบ้านพักที่ ต.เชียกรากน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงทางโค้ง ปรากฏว่ารถที่วิ่งมาด้วยความเร็ว ได้เกิดเสียหลักแหกโค้งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง จนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่ง นางสำเภา ผู้ตายเคยมีสามีและได้หย่าร้างกันไปแล้ว และกำลังมีกำหนดจะแต่งงานใหม่กับ นายบุญส่ง คนขับรถกระบะ ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัว นายบุญส่ง มาสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไปเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ร.ต.ท.เลิศวรรธ์ อุทัยนาง พนักงานสอบสวน สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่บริเวณถนนสามสายในฝั่งตะวันออก หมู่ 4 ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ รพ.สามโคก และมูลนิธิร่วมกตัญญู ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีแดง ทะเบียน ถฉ 4827 กรุงเทพมหานคร เสียหลักแหกโค้งชนอัดติดอยู่กับเสาไฟฟ้าส่องสว่างข้างทาง โดยที่กระบะด้านท้ายพบศพ นางสำเภา ฟักศรี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 3 ต.เชียกรากน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพศีรษะฟาดติดอยู่กับเสาไฟ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย เจ้าหน้าที่นำตัวส่ง รพ.สามโคก ไปก่อนแล้ว ทราบชื่อ น.ส.สุภามาส คลองแสง อายุ 32 ปี นายพิเชษฐ์ อุไลพันธ์ อายุ 37 ปี และ ด.ญ.นิชิภา อุไลพันธ์ อายุ 9 ปี ทั้งหมดนั่งมาที่กระบะท้ายรถ ส่วนคนขับคือ นายบุญส่ง น้อยหร่าย อายุ 31 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ อาศัยช่วงชลมุนหลบหนีไปแหล่งที่มา : เดลินิวส์
