วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

มูรินโญยันข่าวเมสซีซบสิงห์ไร้สาระ

895817นายใหญ่ “สิงห์สำอาง” กล่าวว่า “โลกของสื่อมวลชนมันเปลี่ยนไปมาก โลกของฟุตบอลก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน และผมคิดว่าในเวลานี้ มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับการเผยแพร่เรื่องที่ไม่มีเค้าความเป็นจริง มันง่ายมากสำหรับบางคนที่จะกระจายข่าวที่ยังไม่มีการยืนยัน หรือพูดกันเรื่องข่างลือต่าง ๆ นา ๆ แต่ชัดเจนว่าเรื่องที่ เมสซี จะย้ายมา เชลซี มันเป็นเรื่องไม่จริง โฮเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีม เชลซี จ่าฝูงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายืนยันว่าข่าวที่ระบุว่า ลีโอเนล เมสซี ยอดดาวยิงของ บาร์เซโลนา เตรียมเก็บข้าวของย้ายมาค้าแข้งกับ “สิงห์สำอาง” นั้น เป็นข่าวที่ไร้สาระ และไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: มูรินโญยันข่าวเมสซีซบสิงห์ไร้สาระ

ไรซ์เฮอุทธรณ์โทษแบนผ่านได้คืนสนาม

895780จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ ไรซ์ ถูก เรฟเวนส์ ทีมต้นสังกัดโละออกจากทีมทันที แถมยังโดน เอ็นเอฟแอล สั่งแบนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังจากศาลได้ทำการพิจารณาคำอุทธรณ์เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา และมีการประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมาว่าเจ้าตัวอุทธรณ์โทษแบนเป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้ยอดตัววิ่งวัย 27 ปี สามารถกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง และมีสิทธิเซ็นสัญญากับทีมไหนก็ได้ ขระที่ เอ็นเอฟแอล ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด  เรย์ ไรซ์ อดีตรันนิงแบ๊กตัวเก่งของ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ทีมดังในศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ได้สิทธิหวนกลับคืนสนามอีกครั้ง หลังประสบความสำเร็จในการยื่นอุทธรณ์โทษแบน หลังเจ้าตัวโดน เอ็นเอฟแอล สั่งห้ามลงสนามแบบไม่มีกำหนดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่เจ้าตัวชกคู่หมั้นสาวจนสลบคาลิฟต์ถูกเผยแพร่ออกมา

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: ไรซ์เฮอุทธรณ์โทษแบนผ่านได้คืนสนาม

เมย์-เต่า-ส้มติดท็อป8ลุยซูเปอร์ซีรี่ส์ไฟนอล

895291หญิงคู่ มิซากิ มัตสึโตโมะ/อายากะ ทาคาฮาชิ(ญี่ปุ่น), เรอิกะ คากิอิวะ/มิยูกิ มาเอดะ(ญี่ปุ่น), เทียน ฉิง/เจา ยุนเล่ย(จีน), คริสติน่า พีเดอร์เซ่น/คามิลล่า ริทเตอร์ จูห์ล(เดนมาร์ก), ลัวะ หยิง/ลัวะ หยู(จีน), จัง เย นา/คิม โซ ยัง(เกาหลีใต้), จุง เคียง อึน/คิม ฮา นา(เกาหลีใต้), นิตย่า คริชินด้า มาเฮสวารี่/เกรย์เซีย โปลี่(อินโดนีเซีย)

คู่ผสม ซู เฉิน/หม่า จิน(จีน), จาง หนาน/เจา หยุนเล่ย(จีน), ตอนโตวี อาห์หมัด/ลิลิยาน่า นาสเซอร์(อินโดนีเซีย), โค ซัง ฮุน/คิม ฮา นา(เกาหลีใต้), สุดเขต ประภากมล/สราลีย์ ทุ่งทองคำ(ไทย), คริส แอ็ดค็อก/กาเบรียล แอ็ดค็อก(อังกฤษ), โจชิม ฟิชเชอร์ นีลเซ่น/คริสติน่า พีเดอร์เซ่น(เดนมาร์ก), มิชาเอล ฟุชส์/เอบร์กิต มิเชลส์(เยอรมนี)

ทั้งนี้การแข่งขันจะมีการจับสลากแบ่งกลุ่ม วันที่ 15 ธ.ค.นี้ โดยแชมป์เก่าปีที่แล้ว ชายเดี่ยว ลี ชอง เหว่ย มือ 1 ของโลก จากมาเลเซีย, หญิงเดี่ยว หลี่ เสี่ยว เร่ย มือ 1 ของโลก จากจีน, ชายคู่ เฮนดร้า เซเตียวาน/โมฮัมหมัด อาห์ซาน คู่มือ 2 ของโลก จากอินโดนีเซีย, หญิงคู่ คริสติน่า พีเดอร์เซ่น/คามิลล่า ริทเตอร์ จูห์ล คู่มือ 3 ของโลก จากเดนมาร์ก และคู่ผสมโจชิม ฟิชเชอร์ นีลเซ่น/คริสติน่า พีเดอร์เซ่น คู่มือ 3 ของโลก จากเดนมาร์ก โดยแชมป์ประเภทเดี่ยว รับ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,560,000 บาท ส่วนประเภทคู่รับ 84,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,688,000 บาท

หญิงเดี่ยว หลี่ เสี่ยวเร่ย(จีน), หวัง ซิเสี้ยน(จีน), หวัง ยี่ฮาน(จีน), ไซน่า เนห์วาล(อินเดีย), รัชนก อินทนนท์(ไทย), ซุง จี ฮุน(เกาหลีใต้), ไท่ ซื่อ ยิง(ไต้หวัน) และเบ ยอน จู(เกาหลีใต้) แต่เนื่องจากตามกฎการแข่งขันไม่สามารถให้นักกีฬาชาติเดียวกันเกิน 2 คนเข้าร่วมแข่งขันทำให้อันดับ 9 อากาเนะ ยามากูชิ(ญี่ปุ่น) ได้เข้าแข่งขันแทน หวัง ยี่ฮาน

ชายคู่ ลี ยอง แด/ยู ยอน เซือง(เกาหลีใต้), ลี เชง มู/ไท่ เจีย ซิน(ไต้หวัน), ฮิโรยูกิ เอ็นโดะ/เคนิชิ ฮายาคาวะ(ญี่ปุ่น), เฮนดร้า เซเตียวาน/โมฮัมหมัด อาห์ซาน(อินโดนีเซีย), หลิว เสี่ยวหลง/ฉิว จี้หาน(จีน), ไจ่ เบียว/หง เหว่ย(จีน), โค ซัง ฮุน/ชิน เบ็ค โชล(เกาหลีใต้)

ความเคลื่อนไหวศึกแบดมินตัน "ซูเปอร์ซีรี่ส์ ไฟนอล 2014" ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32,000,000 บาท ที่จะคัดนักแบดมินตันซึ่งทำผลงานมีคะแนนสะสมรายการระดับซูเปอร์ซีรี่ส์ทั้ง 12 รายการอันดับ 1-8 ของโลก ไปแข่งขันที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ วันที่ 17-21 ธ.ค.นี้ ล่าสุด ได้มีการประกาศรายชื่อนักตบลูกขนไก่ที่ติดอันดับแล้ว โดยนักกีฬาไทยที่ติดเข้าแข่งขันมี 2 ประเภทคือหญิงเดี่ยว "น้องเมย์"รัชนก อินทนนท์ ที่มีแต้มสะสมอันดับ 5 รายการระดับซูเปอร์ซีรี่ส์ ซึ่งรั้งมือ 7 ของโลก ขณะนี้ ส่วนคู่ผสม "เต่า"สุดเขต ประภากมล/"ส้ม"สราลีย์ ทุ่งทองคำ มีแต้มสะสมรายการระดับซูเปอร์ซีรี่ส์ อันดับ 5 และที่ตอนนี้รั้งคู่มือ 9 ของโลก

สำหรับนักแบดมินตันอันดับ 1-8 ที่ได้สิทธิ์ไปเล่นแต่ละประเภทมีดังนี้ ชายเดี่ยว เฉิน หลง(จีน), ลี ชอง เหว่ย(มาเลเซีย), แจน โอ ยอร์เกนเซ่น(เดนมาร์ก), ซอน วาน โฮ(เกาหลีใต้), เค.ศรีกานธ์(อินเดีย), เคนโตะ โมโมตะ(ญี่ปุ่น), ฮานส์-คริสเตียน วิทติ้งฮุส(เดนมาร์ก) และทอมมี่ ซูเกียร์โต้(อินโดนีเซีย) โดยในรายของ ลี ชอง เหว่ย อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์เรื่องที่ตรวจพบสารกระตุ้น หากสหพันธ์แบดมินตันโลก ยังยืนโทษห้ามแข่ง 2 ปี ผู้ที่ได้รับสิทธิ์เข้าแข่งขันแทนคือ เคนิชิ ทาโกะ(ญี่ปุ่น)

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: เมย์-เต่า-ส้มติดท็อป8ลุยซูเปอร์ซีรี่ส์ไฟนอล

พ่อฉุนลูกถูกตื้บซัดลูกซองอริปางตาย

895171จากการสอบสวน ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายชัยณรงค์ประสงค์สิ่งดี เจ้าของร้านหม้อน้ำริมถนนที่เกิดเหตุ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือยิงวัยรุ่นดังกล่าวจริง สาเหตุมาจากบุตรชายขี่จยย.ไปปั๊ม ปตท.ใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อซื้อของกลับบ้าน แต่กลุ่มผู้บาดเจ็บกลับรุมทำร้าย จนหน้าตาปูดบวม ภายหลังกลับมาบ้าน ตนเองทราบเรื่องจึงเจ็บแค้นแทนบุตรชาย มายืดดักรอวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว กระทั้งพบเห็นจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ ร่วงตกข้างถนนดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่นฯ และมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองฯ และพกพาอาวุธปืนฯ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ร.ต.ท.วีระชัย ร้อยศรีร้อยเวร สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ถนนสายอู่ทอง-สระกระโจมหมู่ 3 ต.หนองโอ่ง จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพจน์พิสุทธิวงส์ ผกก.สภ.อู่ทอง พ.ต.ท.บัญชา พาหุพันธ์ สว.สส. สภ.อู่ทอง กำลังฝ่ายสืบสวนและหน่วยกู้ภัยจักรนารายณ์

ในที่ เกิดเหตุพบ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าน้ำเงินขาว ทะเบียน จคร 775 นครราชสีมา จอดอยู่ มีรอยเลือดกระจายเต็มพื้น พบผู้บาดเจ็บ2 ราย ประกอบด้วย น.ส.ปรียานุช มีเหลือ อายุ 24 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .22 เข้าที่เข่าซ้าย 1 นัด และ นายบอย (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันที่ศอกซ้ายและขาซ้าย รวม 2 นัด จึงรีบนำตัวส่ง รพ.อู่ทอง

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: พ่อฉุนลูกถูกตื้บซัดลูกซองอริปางตาย

ใช้กฎหมายแรงเอาผิดคนปลูกฝิ่น

895128พล.ท.เกษม   กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 3กองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบและดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไข ปัญหายาเสพติดในพื้นที่17 จังหวัดภาคเหนือ โดยการบูรณาการแผนงานและประสานงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่ เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดเป็นแผนงานที่มีความประสานสอดคล้อง และสามารถนำไป ปฏิบัติงานร่วมกันอย่างได้ผล

สำหรับการควบคุม พื้นที่ปลูกฝิ่นที่มีการลักลอบปลูกฝิ่นในพื้นที่ภาคเหนือ ในปี 2558 จะเริ่มดำเนินการปราบปรามในห้วงตั้งแต่ 16 พ.ย.57– 30 เม.ย. 58โดยพื้นที่ลักลอบปลูกฝิ่นที่กองทัพภาคที่ ๓ ได้รับมอบหมาย มีจำนวน  65  พื้นที่เป้าหมายครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา ลำปาง และตากซึ่งการลักลอบปลูกฝิ่นในปัจจุบัน เกิดจากปัจจัยของสภาพภูมิประเทศ   สภาพภูมิอากาศและแรงจูงใจเกี่ยวกับราคาฝิ่นดิบที่ค่อนข้างสูงราคาจ๊อยละ ประมาณ  150,000 –180,000 บาท ( 1 จ้อยเท่ากับ 1.6 กิโลกรัม ) ทำให้มีการลักลอบปลูกฝิ่นอยู่ซึ่งจะเอากฏหมายที่รุนแรงมาเล่นงานให้เข็ดหลาบเมื่อวันที่ 28 พ.ย.  ที่กองกำลังผาเมือง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ท.เกษม   ธนาภรณ์ แม่ทัพน้อยที่ 3  รองผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจ ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานประชุมแถลงแผนการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่น และการตัดทำลายไร่ฝิ่นประจำปี 2558 โดยมีหลายหน่วยงานที่เกียวข้อเข้าร่วมคับคั่ง

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Resource: ใช้กฎหมายแรงเอาผิดคนปลูกฝิ่น

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ส่งออก-รถยนต์ฉุดเอ็มพีไอติดลบ4%

895093นายอุดม  กล่าวว่า  ภาพรวมอุตสาหกรรมไทยปีหน้าจะขยายตัวที่ดีขึ้น จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก    รวมถึงการลงทุนในประเทศ ทั้งจากโครงการภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งปีหน้าต้องติดตามยอดขอส่งเสริมการลงทุนว่าจะเป็นอย่างไร เพราะมีทั้งปัจจัยบวกคือเศรษฐกิจไทย และโลกฟื้นตัว แต่ปัจจัยลบคือผลจากการประกาศยุทธศาสตร์ลงทุน 7 ปีฉบับใหม่ ที่เน้นโครงการคุณภาพมากกว่ามูลค่าลงทุน   ส่วนปีนี้คาดว่ายอดขอส่งเสริมการลงทุนน่าจะถึง 1 ล้านล้านบาท เพิ่มจากเป้าหมาย 700,000 ล้านบาท นอกจากนี้อุตสาหกรรมไทยยังมีปัจจัยจากการปรับฐานสู่ภาวะปกติของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ประเมินว่า ยอดผลิตจะกลับมาอยู่ที่ 2.15 ล้านคัน ขยายตัว 10%

"จีดีพีอุตสาหกรรมปี 58  จะอยู่ที่ 2-3% เอ็มพีไอขยายตัว 3-4% โดยจีดีพีอุตฯน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม ซึ่ งอยู่ที่ 6% เพราะสศอ.คำนวณจากปัจจัยในปัจจุบัน”

นอกจากนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ชะลอตัวลง  เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโครงการรถคันแรกส่งผลต่อการผลิตในภาพรวมลดลง   คาดว่าปีนี้การผลิตอยู่ที่ 1.95 ล้านคัน ลดลง 20.6%  หากเทียบกับปี 56  ซึ่งปัญหาหลักมาจากยอดขายในประเทศเหลือเพียง 850,000  คัน ลดลง 35.9% ขณะที่ส่งออก อยู่ที่ 1.1 ล้านคันเพิ่มขึ้น 2.5%  โดยอุตสาหกรรมยานยนต์ มีสัดส่วนในจีดีพีิอุตสาห กรรม10% ซึ่งยอดผลิตที่ลดลงมากในปีนี้ทำให้จีดีพีลดลง 2-3%

สำหรับอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า ปริมาณความต้องการบริโภคเหล็กของไทย อยู่ที่ 16.90 ล้านตัน ลดลง 4.5%   ขณะเดียวกันมีแนวโน้มการนำเข้าเหล็กจากประเทศจีนเพิ่มมากขึ้นจนกระทบต่อตสาหกรรมเหล็กในประเทศ  ส่วนอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์การผลิตเพิ่มขึ้น 1-2%  มาจากการขยายตัวในกลุ่มเครื่องปรับอากาศที่จะส่งออกไปตลาดหลักคืออาเซียน   ด้านกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ผลิตเพิ่มขึ้น เพราะการใช้อุปกรณ์สื่อสาร วีดีโอเกมส์ กลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคลมีสัดส่วนขยายตัว   และอุตสาหกรรมอาหารเติบโต 1-3% จากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นและความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง นายอุดม  วงศ์วิวัฒน์ไชย  ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า  ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปีนี้ หรือเอ็มพีไอ ติดลบ 4%  จากปี 56 ติดลบ 3.25% ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ(จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรมติดลบ  1.5% ถึงติดลบ 2%  จากเดิมอยู่ที่  0.1%  เป็นผลมาจากต้นปีเกิดปัญหาการเมืองยืดเยื้อจนส่งผลต่อกำลังซื้อในประเทศ  ประกอบกับการส่งออกติดลบต่อเนื่องหลายเดือน เพราะภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวล่าช้า  ทั้งกลุ่มประเทศยุโรปและญี่ปุ่น

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: ส่งออก-รถยนต์ฉุดเอ็มพีไอติดลบ4%

กสิกรไทยผนึกอาโอโซระหนุนเอสเอ็มอี

895105การร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยเติมเต็มบริการที่ธนาคารกสิกรไทยให้กับลูกค้าญี่ปุ่นเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่เน้นการให้บริการข้อมูลและบริการทางการเงินทั่วไปผ่านเครือข่ายพันธมิตรธนาคารท้องถิ่นญี่ปุ่น 28 แห่ง และองค์กรภาครัฐ เอกชน ของประเทศญี่ปุ่น  พร้อมทั้ง เพิ่มโอกาสสำหรับธุรกิจไทยผู้ร่วมทุนญี่ปุ่น   และสนับสนุนด้านเทคโนโลยี ประสบการณ์ และองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ  ระหว่างกันมากขึ้น และในเร็ว ๆ นี้จะมีดีลควบรวมกิจการ 1 ราย “

นายชินซุเกะ  บาบะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารอาโอโซระ  กล่าวว่า  สาเหตุที่เลือกธนาคารกสิกรไทยเนื่องจากเป็นธนาคารท้องถิ่นที่มีเครือข่ายเอสเอ็มอีไทยมากสุด จากที่ก่อนหน้านี้ได้ลงนามกับธนาคาร โอเวอร์ซี ไชนีส  แบงกิ้ง ของสิงคโปร์  และธนาคารเซ็นทรัลเอเชีย หรือบีซีเอ ของอินโดนีเซีย  นอกจากนี้จากข้อมูลหอการค้าญี่ปุ่นพบว่า มีบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาจัดตั้งและดำเนินธุรกิจในไทยแล้วมากกว่า 7,000 บริษัท  สัดส่วน 50% เป็นบริษัทญี่ปุ่นที่มีขนาดกลางและขนาดเล็ก และในช่วงปี 48-53  ที่ผ่านมาญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยเป็นอันดับ 1  และปัจจุบันนักลงทุนญี่ปุ่นยังแสดงความสนใจรลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นนายปรีดี  ดาวฉาย  กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย   เปิดเผยว่า  ได้ร่วมมือกับธนาคารอาโอโซระ จากประเทศญี่ปุ่น  เพื่อช่วยธุรกิจไทยและญี่ปุ่นต้องการหาพันธมิตรหรือคู่ค้าเพื่อร่วมลงทุน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีเข้ามาขยายธุรกิจในไทยมากขึ้น  รวมถึงเป็นการส่งเสริมการค้าของทั้ง 2 ประเทศ  เพราะในแต่ละปีญี่ปุ่นลงทุนในไทยสูงถึง 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งอุตสาหกรรมที่เข้ามาลงทุน เช่น อุตสาหกรรมการผลิตและการบริหาร  นอกจากนี้รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนธุรกิจขยายลงทุนในไทยทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นสนใจเข้ามาลงทุนในไทยและกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้น

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: กสิกรไทยผนึกอาโอโซระหนุนเอสเอ็มอี

นายกฯไม่รับปากแก้หวยแพงได้หลังปีใหม่

895125ปัญหาราคาล็อตเตอรี่มันมีมากี่ปีแล้ว จะให้เลิกทั้งหมด ถ้าใช้อำนาจในการแก้ปัญหาทีเดียว แล้วคนขายล็อตเตอรี่อีก 8 แสนกว่าคนก็ต้องเดือดร้อน เรากำลังทบทวนให้ราคาสลากออกมา ให้ได้ในราคา 70 กว่าบาท และแต่ละขั้นตอนต้องมีกำไรเท่ากัน ต้องใช้เวลา ค่อย ๆ แก้ ตอนนี้การลงทะเบียนก็ยังไม่ครบ สื่อจึงต้องไปช่วยเขียนว่ารัฐบาลมีความจริงใจแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงขอความร่วมมือให้ผู้ค้ามาร่วมลงทะเบียน แต่นี่เรื่องดี ๆ ไม่มีช่วยกันเลย เขียนติอย่างเดียว ผมไม่ได้โทษท่าน ผมขอถาม ใครจะมาพูดแบบนี้บ้าง คนจะเกลียดก็ยอม ผมไม่ใช่ศัตรูท่านอยู่แล้ว"นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่าหลังจากปีใหม่ราคาสลากกินแบ่งจะอยู่ที่ 80 บาทใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ผมจะทำให้ แต่จะมาเร่งผมแบบนี้ไม่ได้ การแก้ปัญหาด้วยการเร่งทุกอย่างไม่ได้ ผมเป็นใครจะมาแก้ทุกอย่างในเวลาอันรวดเร็ว ที่ผ่านมา 6 เดือน ทำไปเยอะกว่า 6 ปีที่ผ่านมาเสียอีก ผมรู้ว่าประชาชนฝากความหวัง แต่ทุกคนต้องให้ความหวังผมด้วยว่าจะช่วยกัน ถ้าให้ผมแก้เร็ว ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมประกาศเลยว่าจะยกเลิกโควต้าทั้งหมด แล้วถ้าบอกอย่างนี้อีกกี่คนจะเดือดร้อน" พล.อ.ประยุทธ์เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ท่าอากาศยานทหาร (กองบิน 6) ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ ถึงการแก้ปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่า ตนก็พร้อมที่จะลดราคาต้นทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ แต่วันนี้เราต้องไปดูว่าสัญญามีกี่ฉบับ แล้วมาแก้ว่าอันไหนที่หลุดสัญญา อันไหนที่ต้องต่อหรือไม่ต้องต่อสัญญา ซึ่งต้องรื้อทั้งหมดมาดู ยอมรับว่าหากราคาสลากออกมาอยู่ที่ 70-80 บาท ก็จะทำให้เงินเข้ารัฐลดลง ตนก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องนี้ ทั้งนี้แต่ละขั้นตอนในการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลมีการเพิ่มกำไรหลายทอด จึงต้องไปแก้ในส่วนนี้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังหาทางแก้ปัญหาอยู่ แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา ไม่ใช่แก้ได้ในวันเดียว

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: นายกฯไม่รับปากแก้หวยแพงได้หลังปีใหม่

สธ.เตือนอย่าให้เด็กกินคลอโรฟิลล์

894212ผอ.สำนักอาหาร อย. ยังแนะนำด้วยว่า การรับประทานสารสกัดต่าง ๆ เป็นที่นิยมมากสำหรับคนที่ไม่กินผัก-ผลไม้ แต่หากเราทานครบ 5 หมู่ ทานผักผลไม้ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องทานคลอโรฟิลล์เลย เพราะในผักและผลไม้ มีทั้งไฟเบอร์ แร่ธาตุ วิตามิน ครบถ้วน หากเปรียบเทียบการทานผักบุ้ง 1 กำ ราคา 10 บาท จะได้ประโยชน์มากกว่าทานคลอโรฟิลล์ 1 แก้ว ที่สำคัญสารสกัดจากคลอโรฟิลล์ที่ขายกันทั่วไป เป็นกลไกการตลาดที่ต้องการทำให้คนเชื่อว่า กินแทนผักได้ ประเทศไทยมีผักผลไม้มากมาย ควรเลือกบริโภคให้หลากหลายในสัดส่วนที่เหมาะสม

ทาง ด้านนางสุจิตต์ สาลีพันธ์ นักโภชนาการเชี่ยวชาญ สำนักโภชนา กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวกับ Inchเดลินิวส์ออนไลน์Inch เช่นกันว่า “สารคลอโรฟิลล์เป็นสารที่มีอยู่ในผักและผลไม้ที่เรากินในชีวิตประจำวัน ที่สำคัญการรับประทานผักผลไม้ยังให้แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ซึ่งได้ประโยชน์กว่าการรับประทารสารสกัดจากคลอโรฟิลล์ ผลิตภัณฑ์ที่มาจากสารสังเคราะห์ ไม่ให้ประโยชน์กับร่างกายมนุษย์เท่าที่ควร บางโครงสร้างอาจจะไม่เหมาะกับร่างกายมนุษย์ ถือว่าเกินความจำเป็น แต่หากต้องการซื้อมารับประทาน ต้องตรวจดูว่ามีเครื่องหมาย อย.หรือไม่ เป็นน้ำคลอโรฟิลล์จริงหรือไม่

Inchในเด็กแรกเกิดถึง 1 ปี ไม่ควรกินอย่างยิ่ง ในวัยแรกเกิดถึง 6 เดือนควรให้ทานแต่น้ำนมแม่ , วัย 6 เดือนถึง 1 ขวบให้ทานนมแม่ควบคู่กับอาหารเสริมตามวัย และหลัง 1 ขวบให้ทานอาหารตามวัยให้ครบทั้ง 5 หมู่ แค่นี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ทั้งนี้ร่างกายเด็กแรกเกิดจนถึง 4 ขวบ อวัยวะภายในยังทำงานไม่เต็มที่ โดยเฉพาะไตยังขับของเสียได้ไม่เต็มที่ หากให้รับประทานสารสกัดจากคลอโรฟิลล์ อาจส่งผลให้ไตของเด็กทำงานหนักเกินInch นางสุจิตต์ กล่าว

ที่ผ่านมายังไม่มีผลการวิจัยรับรองการทำงานของคลอโรฟิลล์ในร่างกายมนุษย์ อย. อนุญาตในแง่ความปลอดภัย การกล่าวอ้างโอ้อวดถือว่าเป็นเท็จทั้งสิ้น เพราะไม่มีผลทางด้านการรักษา บำบัด โรค เด็กและสตรีมีครรภ์ จึงห้ามรับประทาน ส่วนใหญ่ที่ อย. จับบ่อย ๆ คือโฆษณาโอ้อวดเป็นเท็จ บางรายบอกว่าทานแล้วลดความอ้วน แสดงว่าผสมยาลดความอ้วน ซึ่งก็ถือว่าผิดกฎหมายเช่นกัน Inchน.ส.ทิพย์วรรณ กล่าวและว่า สารสกัดจากคลอโรฟิลล์ ไม่ใช่สารธรรมชาติ แต่เป็นสารสกัด ฉะนั้นทานเกิน เข้มข้นเกินไป จะสงผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี

ผอ.สำนักอาหาร อย. กล่าวต่อว่า การบริโภคคลอโรฟิลล์จากสารสกัดมากเกินไป อาจเกิดอาการผด ผื่นคัน อุจจาระร่วง ลิ้นเป็นสีเหลือง ทั้งยังทำให้ไตทำงานหนัก จนเป็นสาเหตุให้ไตไม่แข็งแรง เนื่องจากสารคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในพืช เป็นสารที่ไม่ละลายในน้ำ ฉะนั้นในขั้นตอนการสกัดจะต้องใช้สารอะซีโตนและแอลกอฮอล์เป็นสารทำละลายถ้าจะ ทำมาขาย ต้องแยกด้วยด่างและเติมทองแดงสลับแมกนี่เซียม

กรณีที่มีการโต้เถียงเกี่ยวกับการบริโภคผลิตภัณฑ์สารสกัดจากคลอโรฟิลล์ ที่มีผู้ผลิตและผู้จำหน่ายหลายราย กล่าวอ้างว่า สารสกัดจากคลอโรฟิลล์ สามารถช่วยล้างสารพิษในเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง สดชื่น ผิวพรรณผ่องใส สมานแผลโรคกระเพาะและลำไส้ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ปรับความเป็นกรดเป็นด่างในร่างกายมนุษย์ และควรบริโภคให้มาก เพื่อมาเสริม InchฮีโมโกลบิลInch ในเม็ดเลือด ฯลฯ จนกระทั่งมีคุณแม่รายหนึ่ง นำน้ำผสมสารสกัดจากคลอโรฟิลล์ให้หนูน้อยวัย 3 เดือนดื่ม จนหลายฝ่ายต่างวิตกกังวลนั้น

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. น.ส.ทิพย์วรรณ ปริญญาศิริ ผอ.สำนักอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ทีมข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์ว่า” ว่า Inchคลอโรฟิลล์Inch เป็นสารประกอบที่พบได้ในส่วนที่มีสีเขียวของพืช พบมากที่ใบ รองลงมาคือ ลำต้น ดอก ผล และรากที่มีสีเขียว และพบได้ในสาหร่ายทุกชนิด ที่ผ่านมา อย.ของอเมริกา อนุญาตให้จำหน่ายคลอโรฟิลล์ โดยกำหนดคุณสมบัติไว้เป็นยาระงับกลิ่นปาก ลดกลิ่นปัสสาวะ ส่วน อย.ในประเทศไทย อนุญาตให้จำหน่ายสารสกัดจากคลอโรฟิลล์เพื่อใช้เป็น 1.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 2.วัตถุเจืออาหาร หรือสีผสมอาหาร สำหรับใส่ในขนม และ 3.เครื่องดื่ม โดยทาง อย.กำหนดว่า ผู้จำหน่ายต้องให้ข้อมูลกับผู้บริโภคที่ฉลากว่า “ห้ามบริโภคเกินวันละ 450 มิลลิลิตร” อีกทั้งไม่อนุญาตให้โฆษณาโอ้อวดเกินจริง หรือแอบอ้าง เช่น ขับสารพิษ ขับสารตกค้าง ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส บรรเทาอาการโรค ซึ่งหากตรวจพบ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: สธ.เตือนอย่าให้เด็กกินคลอโรฟิลล์

ร้านเสื้อในปักกิ่งห้ามลูกค้าจีนเข้า

faabj786aejd5jfk5b6ai แต่การติดป้ายของร้าน ได้สร้างความไม่พอใจ และเกิดกระแสต่อต้านขึ้นในโซเชียล มีเดีย โดยหนึ่งในผู้ใช้เว็บไซต์ ซีน่า เหว่ยโป๋ว ได้ตั้งคำถามว่า Half inchนี่เป็นประเทศจีนใช่หรือไม่Half inch และปรากฏว่า มีการแชร์กันต่อๆ ไปตามเว็บไซต์อื่น ส่วนอีกคนหนึ่งบอกว่า Half inchนี่เป็นการข่มเหงกันถึงหน้าบ้านHalf inch และอีกคนหนึ่งได้ตั้งคำถามว่า เจ้าของร้านจะเปิดร้านในจีนได้อย่างไร ในเมื่อไม่ต้องการลูกค้าชาวจีน ร้านค้าแบบนี้ควรจะปิดร้านไปซะ




                                 ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคนหนึ่ง ให้ความเห็นว่า แม้ว่าป้ายจะแสดงถึงการเลือกปฏิบัติ แต่เจ้าของร้านก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เนื่องจากจีนไม่มีกฎหมายที่ห้ามการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าแห่งนี้ จุดกระแสความขัดแย้งเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ หลังจากติดป้ายมีข้อความว่า Half inchคนจีนห้ามเข้า ยกเว้นพนักงานHalf inch ขณะที่พนักงานคนหนึ่งของร้าน ได้ชี้แจงเหตุผลที่ต้องมีการติดป้าย ว่า ลูกค้าชาวจีนบางคน ทำตัวน่ารำคาญเกินไป เช่น ลูกค้าผู้หญิงชอบเข้าไปลองชุดโน้นชุดนี้ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลย นอกจากนี้ ทางร้านยังเคยต้องชดใช้เงินให้ลูกค้าชาวต่างชาติ จำนวน 5,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 160,000 บาท หลังจากกระเป๋าเงินของเขาถูกขโมยไป เมื่อตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิด จึงพบว่า เป็นฝีมือของลูกค้าชาวจีนคนหนึ่ง ส่วนพนักงานอีกคนหนึ่ง บอกว่า บางทีการห้ามลูกค้าชาวจีนเข้า อาจเป็นการป้องกันไม่ให้คู่แข่งเข้าไปก็อปปี้แบบของสินค้าที่จำหน่ายอยู่ใน ร้านด้วย  27 พ.ย. 57  หนังสือพิมพ์ปักกิ่ง ยู้ธ เดลี่ ของทางการจีน รายงานว่า ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่งของจีน สร้างความไม่พอใจไปทั่วประเทศ หลังจากติดป้ายห้ามไม่ให้ลูกค้าชาวจีนเข้าร้าน


แหล่งที่มา  :  คมชัดลึก

Reference: ร้านเสื้อในปักกิ่งห้ามลูกค้าจีนเข้า

ยานอวกาศรัสเซียนำ3นักบินไป'ISS'

  dg789baa7ffjfaicdki85คริสโตโฟเร็ตติ วัย 37 ปี ยังเป็นร้อยเอกแห่งกองทัพอากาศอิตาลีอีกด้วย ซึ่งเธอไม่เพียงแต่เป็นนักบินอวกาศหญิงคนแรกจากอิตาลีที่ได้เดินทางไปอวกาศ เท่านั้น แต่ยังนักบินอวกาศคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่นำเอาเอสเปรสโซแท้ๆ ของอิตาลี ให้ขึ้นไปลิ้มรสกันในวงโคจรอวกาศ มีสมาชิก 16 ประเทศ ที่ปฏิบัติภารกิจบน ISS ร่วมกัน รวมทั้งรัสเซียและสหรัฐ ที่ให้การสนับสนุนการเงินส่วนใหญ่ ส่วนนักบินอวกาศจะสับเปลี่ยนกันขึ้นไปประจำอยู่บน ISS เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่ง ISS ถูกส่งขึ้นไปบนอวกาศ เมื่อปี 2541 ทำหน้าที่ด่านหน้าและห้องปฏิบัติการทดลองในอวกาศ มีมูลค่าในการก่อสร้าง 500,000 ล้านดอลลาร์ และนาซาได้ยืดอายุการใช้งานออกไปอีก 4 ปี โดยคาดว่าจะต้องทำหน้าที่ต่อไปจนถึงปี 2567 นาซาต้องพึ่งพารัสเซีย ในการส่งนักบินอวกาศไปยัง ISS ที่มีค่าใช้จ่ายแต่ละครั้ง 70 ล้านดอลลาร์ ต่อนักบินอวกาศ 1 คน สำหรับการเดินทางโดยยานอวกาศโซยุซ ภารกิจการเดินทางของนักบินอวกาศทั้ง 3 คน คือการนำเสบียบหนักครึ่งกิโลกรัม ที่ประกอบด้วย คาเวียร์และเครื่องชงกาแฟไปที่ ISS โดยคาเวียร์ ถูกบรรจุในกล่อง 15 กล่อง กล่องละ 30 กรัม นอกจากนี้ ยังมีแอปเปิล , ส้ม , มะเขือเทศ , นมแห้งแช่แข็ง และกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล รวม 140 หลอด บรรดานักบินอวกาศบน ISS ยังจะสามารถชงกาแฟกินได้โดยเครื่องชงกาแฟ น้ำหนัก 20 กิโลกรัม ออกแบบโดยผู้ผลิตกาแฟชื่อดังของอิตาลี ลาวาซซ่า และบริษัทวิศวกรรมอาร์โกเท็ค ที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตอาหารในอวกาศ  ด้านนาซา ได้ทวีตข้อความว่า ยานโซยุซเข้าสู่วงโคจรโดยปลอดภัยและเตรียมจะเข้าเชื่อมต่อกับ ISS ขณะที่ภาพการถ่ายทอดสดแสดงให้เห็น เวิร์ทส์ ชูนิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างพร้อมกับยิ้มให้กล้อง โดยยานอวกาศโซยุซมีกำหนดจะเชื่อมต่อกับ ISS หลังถูกส่งขึ้นจากฐานยิงจรวดภายในเวลา 6 ชั่วโมง และคริสโตโฟเร็ตติ , เวิร์ทส์ และชคับเลรอฟ มีกำหนดจะต้องอยู่บน ISS ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2558 24 พ.ย. 57  สำนักข่าวรอสคอสมอส ของรัสเซีย รายงานว่า ยานอวกาศโซยุซ TMA-15M ของรัสเซีย ถูกปล่อยขึ้นจากฐานยิงจรวดไบโคนูร์ คอสโมโดรม ของรัสเซีย ในคาซัคสถานแล้ว เมื่อเวลา 21.01 น. ตามเวลามาตรฐาน หรือราว 04.01 น. ตามเวลาในไทย ของเช้ามืดวันนี้ เพื่อนำนักบินอวกาศ 3 คน ไปส่งที่สถานีอวกาศนานาชาติ หรือ ISS และในภารกิจนี้ มีซาแมนธ่า คริสโตโฟเร็ตติ นักบินอวกาศหญิงคนแรกของอิตาลี จากสำนักงานบริหารอวกาศของยุโรป เดินทางร่วมไปกับนักบินอวกาศรัสเซีย อันทอน ชคัปเลรอฟ และเทอร์รี่ เวิร์ทส์ นักบินอวกาศอเมริกัน จากสำนักงานบริหารอวกาศ และการบินแห่งชาติของสหรัฐ หรือ นาซา


แหล่งที่มา  :  คม ชัด ลึก

Source: ยานอวกาศรัสเซียนำ3นักบินไป'ISS'

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

คาหนังคาเขารื้อกระเป๋าผู้โดยสารหมอชิต

894146ทั้งนี้จากการพูดคุยกับบริษัทของผู้ก่อเหตุได้ข้อสรุปว่า จะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเปิดเติมในจุดที่สุ่มเสี่ยง และห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่รับฝากของเข้าไปในพื้นที่อย่างเด็ดขาด พร้อมเพิ่มจำนวนพนักงานให้เพียงพอต่อการทำงาน โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ตอบสนองนโยบายของ บขส.เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ไม่เคยมีประวัติเสียหายหรือกรณีของหายแต่อย่างใด ส่วนความผิดพลาดในครั้งนี้เป็นเรื่องของตัวบุคคลที่มีเจตนาจะเข้าไปทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยภายในบริเวณของสถานีขนส่งหมอชิต2 ได้ตามปกติ

เมื่อวันที่27 พ.ย.ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์”รายงานว่า มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอ“พฤติกรรมพนักงานรับฝากกระเป๋าหมอชิต 2” ความยาว 3.44 นาที พร้อมบรรยายว่า“ดูพฤติกรรมพนักงานรับฝากกระเป๋าหมอชิตชั้นสองขาออกครับ..เขาฝากไว้ ไม่ได้ให้ฝากตรวจสอบ เหตุเกิดวันที่ 23 พ.ย.57ช่วยแชร์หน่อยครับ”เป็นภาพเหตุการณ์พนักงานวัยรุ่นชายมีหน้าที่รับฝากกระเป๋าของสถานีขนส่งกรุงเทพฯ(หมอชิต 2)กำลังรื้นค้นสัมภาระของผู้โดยสารอย่างใจเย็น และระวังคนที่เดินผ่านไปมาจะสังเกตุเห็นโดยมีการเฝ้าระวัง และพยายามบังสายตาคนอย่างดี

ทั้้งนี้หลังเกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ สอบถามไปที่ น.ส.ระพิพรรณ วรรณพินทุ ผู้อำนายการกองประชาสัมพันธ์บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ซึ่ง น.ส.ระพิพรรณ เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า “เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่23 พ.ย.ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุที่อยู่ในคลิปชื่อนายไชยยา ฝ่ายสงค์ อายุ 29 ปี ลูกจ้างบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งยังอยู่ในช่วงระหว่างทดลองงาน โดยวันเกิดเหตุพนักงานที่รับหน้าที่ดูแลในส่วนรับฝากของลากะทันหัน ทางนายไชยยาจึงอาสาเข้ามาทำหน้าที่แทน ซึ่งในจุดนั้นจะมีตำแหน่งที่เรียกว่าจุดบอด กล้องวงจรปิดส่องไปไม่ถึง ทำให้นายไชยยาอาศัยจุดนี้ก่อเหตุรื้อค้นทรัพย์สินของผู้โดยสารขึ้นภายหลังบริษัทต้นสังกัดทราบเรื่องได้ไล่นายไชยยาออกทันที แม้จะไม่มีเจ้าทุกข์แจ้งของหาย ซึ่งนายไชยยารับสารภาพว่า รื้อค้นของจริงแต่ไม่ได้หยิบสิ่งของใดไป อีกทั้งบริษัต้นสังกัดได้นำตัวนายไชยยาไปแจ้งความ และทำประวัติที่ สน.บางซื่อ ไว้เป็นหลักฐาน

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: คาหนังคาเขารื้อกระเป๋าผู้โดยสารหมอชิต

ชาวเมืองคอนฮือฮาภาพถ่ายติดเทวดาส่งวิญญาณ

894065ในขณะที่ชาวบ้านต่างคุย และบอกต่อ ๆ กันถึงปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในงานศพ ส่วนใหญ่จะเชื่อว่ามีเทวดามาร่วมงาน เพราะสมัยที่นายแนบมีชีวิตอยู่นั้นเป็นคนดี มีน้ำใจให้การช่วยเหลือคนอื่นเสมอมา ส่วนลูกหลานและญาติ ๆ ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี และจะยึดแนวทางการดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างต่อไป

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นของผู้สื่อข่าวพบว่า น่าจะเกิดจากทิศทางในการถ่ายภาพ เพราะจุดที่ตั้งโลงศพบริเวณดังกล่าว หากมองจากด้านหน้าจะมีชื่อผู้ตายเขียนเป็นตัวหนังสือสีดำในวงกลม อยู่ตรงกลาง ส่วนมุมกล้องที่มีผู้ถ่ายมาได้ เป็นด้านข้าง จึงอาจเกิดภาพซ้อน ทำให้ตัวหนังสือบนโลงศพดูเหมือนหน้าคนก็เป็นได้

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาว จ.นครศรีธรีรมราช ต่างฮือฮาภาพถ่ายภาพติดวิญญาณ หรือภาพถ่ายติดเทวดา ซึ่งเป็นภาพภายในศาลาสวดพระอภิธรรมศพของนายแนบ ด้วงฤทธิ์ อายุ 87 ปี ที่วัดท่าไทร หมู่ 2 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ ขณะที่มีญาติ ๆ และลูกหลานมาร่วมงานกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาและได้ถ่ายภาพร่วมกัน ภายหลังนำภาพดังกล่าวมาดู ปรากฏว่ามีภาพใบหน้าบุคคลถึงลำคออยู่ข้างโลงบรรจุศพด้านซ้ายของภาพ สร้างความแปลกใจเป็นอย่างมาก

น.ส.พนิพร ด้วงฤทธิ์ อายุ 24 ปี หลานสาวนายแนบ เปิดเผยว่า ตนได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเหล่านี้เอง ประหลาดใจอย่างมากตอนที่เห็น อย่างไรก็ตามไปตรวจสอบภาพจากกล้องถ่ายภาพ และกล้องโทรศัพท์ของคนอื่น ๆ ก็ไม่ปรากฏภาพใบหน้าดังกล่าวปรากฏให้เห็น แม้จะถ่ายในมุมเดียวกันก็ตาม ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ตกแต่งหรือทำภาพแต่อย่างใด อยู่ ๆ มันก็มีภาพหน้าผู้ชายคล้ายเทวดาออกมาเอง

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: ชาวเมืองคอนฮือฮาภาพถ่ายติดเทวดาส่งวิญญาณ

สั่งตายผู้พันกระทิงดับคาเก๋ง

894116สอบสวนทราบว่า พ.ต.อ.วิฑูรย์ หลังจากเกษียณ ได้มาซื้อที่ดินในพื้นที่ ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง ปลูกบ้านอาศัย และเลี้ยงวัว ไก่พื้นบ้าน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถคันดังกล่าวออกจากบ้านพร้อมแม่บ้าน เพื่อจะไปทำธุระในตัว อ.บ้านโป่ง จู่ ๆ มีคนร้ายคาดว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คน ใช้รถเก๋งสีบรอนซ์ ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ขับตามมา เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นจังหวะปลอดคน คนร้ายขับรถแซงประกบแล้วใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่รถ และผู้ตาย เป็นช่วงจังหวะที่มีรถของชาวบ้านผ่านมาพอดีจึงทำให้ถูกลูกหลงไปด้วย โดยคนร้ายเลี้ยวหัวกลับรถขับมาจอดแล้วใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่อีกชุด จากนั้นก็ขับหลบหนีไป หลังถูกกลุ่มคนร้ายยิง พ.ต.อ.วิฑูรย์ ยังไม่เสียชีวิตทันที ได้ใช้โทรศัพท์โทรติดต่อ พ.ต.อ.สมเดช ฐิตะวัฒนสกุล หน.สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อต้องการให้ช่วยด้วย

ส่วนสาเหตุในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งไว้หลายประเด็น ทั้งเรื่องที่ผู้ตายนั้นมีปัญหากับชุมชนรอบ ๆ บ้าน เนื่องจากที่ผ่านมามีขโมยเข้ามาขโมยไก่ที่ผู้ตายเลี้ยงไว้ และมีคนแอบเข้าไปทำลายข้าวของภายใน จึงโกรธแค้น และมักชอบยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ จนถูกชาวบ้านร้องเรียน และมีปัญหาบานปลายมาจนทุกวันนี้ ล่าสุดเช้าวันนี้ชาวบ้านได้นัดรวมตัวกัน เพื่อจะไปประท้วงผู้ตายที่หน้าบ้าน นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องที่ผู้ตายไปร้องเรียนกับหน่วยงานทหาร ให้เข้าจับกุมเจ้ามือหวยเถื่อนรายวันรายใหญ่ใน อ.บ้านโป่ง ซึ่งเป็นของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง อาจเป็นสาเหตุทำให้โกรธแค้น จึงส่งมือปืนมาสังหารผู้ตายเพื่อลบความแค้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุแท้จริง และติดหาตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ร.ต.ท.ทรงพล ตันเจริญ ร้อยเวร สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันจนมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ บนถนนสายเขางู-เบิกไพร ระหว่าง กม.ที่ 37-38 หมู่ 3 ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ประภากร ริ้วทอง ผบก.สส.ภ.7, พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.อิทธิพลชลายนเดชะ ผกก. แพทย์เวร รพ.บ้านโป่ง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจการกุศล ในที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง โตโยต้าโคโรน่า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 1 กน-3441 กท.สภาพถูกอาวุธปืนยิงจนพรุนทั้งคัน กระจกด้านคนขับแตกละเอียด ภายในพบศพ พ.ต.อ.วิฑูรย์ พรหมประวัติอายุ 78 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันในนาม "ผู้พันกระทิง" เคยเป็นอดีตรองผู้บังคับการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (รอง ผบก.ปปป.) และอดีตเป็นผู้บังคับบัญชา และอาจารย์ของพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สภาพนอนคว่ำไปทางด้านซ้าย ตรวจสอบพบบาดแผลที่บริเวณหน้าอกสะโพกขวาและหน้าท้อง ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 11 มม. และขนาด 9 มม. รวม 10 นัด

นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 5 ปลอก และปลอกกระสุนขนาด 11 มม. จำนวน 2 ปลอกตกอยู่ และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่นั่งโดยสารมาด้วย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นางทองเพชร ผ่านวงษ์ อายุ 62 ปี เป็นแม่บ้านของผู้ตาย ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่มือขวา และขาขวา และยังมีผู้ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นชาวบ้านที่เดินทางผ่านมาในช่วงที่เกิดเหตุ ถูกยิงเข้าที่บริเวณชายโครงขวา 1 นัด ทราบชื่อต่อมาคือนายปฐม โค้วสกุล อายุ 49 ปี อาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ส่ง รพ.บ้านโป่งไปก่อนหน้า

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: สั่งตายผู้พันกระทิงดับคาเก๋ง

อุปทานน้ำมันโลกกำลังล้นตลาด

893749ทั้งนี้ ซากาเนห์เชื่อว่าการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต้องอาศัยความร่วมมือจาก ประเทศอื่นด้วย นอกเหนือจากบรรดากลุ่มประเทศสมาชิกองค์การประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก ( โอเปก ) ทั้ง 12 ประเทศ ได้แก่ แอลจีเรีย แองโกลา เอกวาดอร์ อิหร่าน อิรัก คูเวต ลิเบีย ไนจีเรีย กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) และเวเนซุเอลา ซึ่งมีกำหนดประชุมใหญ่ครั้งสำคัญในวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย. นี้ ณ กรุงเวียนนา สถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่โอเปก

การ ประชุมใหญ่ของโอเปกในครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงกว่าร้อย ละ 30 ตั้งแต่เดือนมิ.ย. สืบเนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบที่มากเกินความต้องการ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งตัว และความหวั่นวิตกเรื่องอุปสงค์เชื้อเพลิงที่อ่อนแอท่ามกลางเศรษฐกิจโลกใน ภาพรวมที่ยังคงซบเซา ซึ่งเวเนซุเอลาและเอกวาดอร์เรียกร้องให้โอเปกปรับลดอัตราการผลิต เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของ ประเทศสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ว่านายบิจาน นัมดาร์ ซากาเนห์ รมว.กระทรวงน้ำมันของอิหร่าน แถลงเมื่อวันพุธ เตือนว่าอุปทานน้ำมันดิบหรือปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในโลกอยู่ในระดับที่มาก เกินความต้องการของผู้บริโภคแล้ว และจะเพิ่มสูงมากขึ้นกว่านี้อีกในปีหน้าหากไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อ กระตุ้นราคา ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวฉุดรั้งให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงแตะระดับต่ำที่ สุดในรอบ 4 ปี

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Resource: อุปทานน้ำมันโลกกำลังล้นตลาด

รัฐมิสซูรีเพิ่มกำลังทหารคุมเหตุจลาจลสีผิว

893740นอกจากนี้ สถานการณ์ชุมนุมบานปลายออกไปยังเมืองสำคัญในหลายรัฐของสหรัฐ นักเรียนมัธยมในโรงเรียนหลายแห่งของนครนิวยอร์กและเมืองซีแอตเทิลแสดงอารยะ ขัดขืนด้วยการไม่เข้าเรียน ขณะที่ชาวเมืองพอร์ตแลนด์ ในรัฐออริกอน ราว 300 คนออกมาชุมนุมประท้วงและเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่

ในส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายนั้น ครอบครัวของบราวน์ออกมาเรียกร้องให้การชุมนุมดำเนินไปอย่างสันติ และทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงใช้ความรุนแรงต่อกัน พร้อมทั้งแสดงความผิดหวังอย่างรุนแรงในคำตัดสินของคณะลูกขุนใหญ่ และตำหนิวิลสันว่าเป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่น่าเคารพอีกต่อไปในสายตาของประชาชน อย่างไรก็ตาม วิลสันให้สัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์เอบีซี ปกป้องการกระทำของตัวเองว่า Inเหมาะสมแล้วIn

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ว่านายเจย์ นิกสัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี ออกคำสั่งเพิ่มจำนวนกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิลงพื้นที่รักษาความสงบในเมือง เฟอร์กูสันเพิ่มจาก 700 นาย เป็น 2,200 นาย สืบเนื่องจากสถานการณ์ประท้วงและจลาจลที่ยังคงรุนแรง หลังคณะลูกขุนใหญ่มีมติเมื่อวันจันทร์ ให้ตำรวจหนุ่มซึ่งมีการเผยเพียงชื่อ-สกุลว่า ดาร์เรน วิลสัน ไม่มีความผิดในคดียิงสังหารนายไมเคิล บราวน์ เด็กหนุ่มผิวสี วัย 18 ปี เมื่อเดือนส.ค.

ทั้งนี้ มีรายงานกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งพยายามบุกเข้าไปภายในศาลาว่าการเมือง เซนต์หลุยส์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเฟอร์กูสันด้วย และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้บุกรุกได้อย่างน้อย 2 คน แม้เจ้าหน้าที่ยืนยันสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้นกว่าวันที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงทั้งในเมืองเฟอร์กูสันและเซนต์หลุยส์รวมกัน ได้อย่างน้อย 58 คน แต่ยังคงมีการเผาทำลายรถยนต์ตำรวจและปล้นสะดมร้านค้าหลายแห่งอย่างต่อเนื่อง

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Supplier: รัฐมิสซูรีเพิ่มกำลังทหารคุมเหตุจลาจลสีผิว

อียูทุ่มกว่า3แสนล้านยูโรกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรป

893727นอกจากนี้ ยุงเกอร์ยังเผยด้วยว่า หน่วยงานทางเศรษฐกิจของอียูอยู่ระหว่างเร่งร่างโครงการกระตุ้นการลงทุนให้ กับประเทศที่กำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ และแผนยุทธศาสตร์เรียกความเชื่อมั่นให้นักลงทุนจากทั่วโลกกลับมาแสวงหาลู่ ทางในยุโรป ในฐานะหนึ่งในภูมิภาคน่าลงทุนมากที่สุดอีกครั้ง

หากแผนการ ดังกล่าวประสบความสำเร็จจะสามารถเพิ่มปริมาณผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) ของอียูเพิ่มจากปัจจุบัน 330,000 ล้านยูโร ( ราว 13.5 ล้านล้านบาท ) เป็น 410,000 ล้านยูโร ( ราว 16.8 ล้านล้านบาท ) ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า และสร้างตำแหน่งงานใหม่ได้มากถึง 1.3 ล้านตำแหน่ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ว่านายฌอง-โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ( อีซี ) แลงต่อที่ประชุมสภายุโรป ( อีพี ) ที่เมืองสตราสบูร์ก ในฝรั่งเศส เมื่อวันพุธ เกี่ยวกับร่างแผนยุทธศาสตร์กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับทั้ง 28 ประเทศสมาชิกภายใต้วงเงิน 315,000 ล้านยูโร ( ราว 12.9 ล้านล้านบาท ) ระหว่างปี 2558-256 โดยที่น่าสนใจคือ 21,000 ล้านยูโร  จะเป็นเงินกู้ยืมสำหรับโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน

อย่าง ไรก็ตาม การที่จำนวนเงินในร่างแผนการเพียง 16,000 ล้านยูโรเท่านั้น ( ราว 657,600 ล้านบาท ) ที่จะมาจากกองทุนส่วนกลางของสหภาพยุโรป ( อียู ) ส่วนที่เหลือยุงเกอร์ ตั้งเป้าให้เป็นเงินบริจาคจากสถาบันการเงินของเอกชน เรียกเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าเป็นไปได้ยากที่จะระดมทุนได้มากถึงเพียง นั้น

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Supplier: อียูทุ่มกว่า3แสนล้านยูโรกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรป

วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

‘นายกฯ’มอบรางวัลอุตสาหกรรม

ab57ccbh86faj77bkh6biนายกฯปัดเผด็จการ ชี้ปชต.ต้องมีขอบเขต



                 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้เป็นประชาธิปไตยมากกว่ารัฐบาลอื่นนั้น นายกรัฐมนตรีอึดอัดใจอะไรหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่อึดอัดใจ เพราะทุกคนเรียกร้องประชาธิปไตย เราก็พยายามใช้หลักการทางประขาธิปไตยให้มากที่สุด การแสดงความคิดเห็น การมีส่วนร่วมแต่ก็ต้องอยู่ขอบเขตมาก ก็ต้องยอมรับว่ามันต้องเป็นประชาธิปไตยที่มีกติกา ที่ผ่านมาเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ เสรีภาพ อยากทำอะไรก็ทำก็ทำ แล้ววุ่นวายไหม ผมไม่ปฏิเสธ แต่อย่าให้เกิดขึ้นอีกในวันหน้า เมื่อผมไม่อยู่แล้วก็ทำกันไป แต่วันนี้ผมต้องขอกติกาตรงนี้ เพื่อจะแก้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในวันหน้า"


                 ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้คิดว่านายกรัฐมนตรีไม่เป็นเผด็จการเกินไปใช่หรือไม่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "เผด็จการตรงไหน ถามว่าคำว่าเผด็จการคือการยึดอำนาจ ผลประโยชน์ การค้า การลงทุนหยุดทั้งหมด เป็นสินทรัพย์ของตัวเองเป็นของผู้นำ ผมทำอะไรสักอันแล้วยัง มีอะไรเป็นของผมหรือยัง สลึงหนึ่งได้สักอย่างไหม แล้วผมก็ต้องมาหงุดหงิดบ้าง อารมณ์เสียบ้าง ต้องมาคำถาม แต่ผมทำเพื่ออะไร เพื่อใครดูเจตนาผมหน่อย อย่ามาบอกผมอย่างนี้ อย่างนั้น ผมไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นแต่ถ้ามันเกิดก็ต้องไปว่ามา"


                 ส่วนข้อเสนอของนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น พลเอประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นข้อเสนอของท่าน ซึ่งเป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่ เมื่อถามต่อว่า มีการพูดถึงเรื่องการทุจริตด้วยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้ามีการทุจริต ก็ต้องไปหามา ผมบอกแล้ว ต้องไปหามาใครทุจริตตรงไหน ไปหามา


                 ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวนายกรัฐมนตรีต้องการให้การรัฐประหารวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาเป็นการรัฐประหารครั้งสุดท้ายของประเทศไทยใช่หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า "อย่าไปสนใจว่าจะรัฐประหาร แต่จะทำอย่างไรให้ประเทศชาติไม่มีความวุ่นวาย มันก็ไม่มีใครหาเหตุที่จะเข้ามาแก้ปัญหา หรือทำอย่างอื่นได้ ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนเข้ามา เข้ามาได้แต่ต้องทำให้เป็นแบบนี้ ที่มีธรรมาภิบาลไม่ทุจริต โปร่งใส มันมีเผด็จการ 2 อย่างไม่ใช่หรือ เผด็จการรัฐสภา ไปทบทวนมาว่าเผด็จการรัฐสภาคืออะไร ไปหามา"
นายกฯ กล่าวถึงราคาข้าวและสินค้าเกษตรด้วยว่า ข้าวต้องราคาดีกว่านี้ เพราะสิ่งที่ตนห่วงคือเมื่อราคาสินค้าเกษตรต่ำลงเกษตรกรพวกนี้จะออกจากวงจรทางเศรษศฐกิจ วันหน้าจะไม่มีคนผลิต เพราะวันนี้คนที่ทำนาคือคนรุ่นพ่อแม่ จะดูแลเขาอย่างไร ต้องสร้างราคาให้เพียงพอ เพราะต้นทุนต่อไร่ขณะนี้อยู่ที่ 6-7 พันบาท เราต้องลดต้นทุน และเพิ่มราคาสร้างแบรนด์ข้าวไทยและราคาผลผลิตเกษตรได้อยางไร


                 นายกฯ กล่าวต่อว่า กติกาการลงทุนจะดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องสิทธิประโยชน์จะไม่ธรรมดาแน่นอน เราต้องให้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้เกิดความยั่งยืนเพื่อให้คนไทยมีงานทำ ต้องมีโอกาสขึ้นเป็นระดับหัวหน้างานไม่ใช่แค่แรงงานอย่างเดียว ไม่ใช่ยากเลย และเราออกกฎระเบียบเพื่อให้ต่างชาติรู้ว่าเราต้องการอะไร แต่ทั้งนี้เราต้องแก้ปัญหาลดขั้นตอนการติดต่อกับหน่วยงานราชการใช้ไอทีได้ให้ใช้ ตนไปต่างประเทศเขาถามว่าประเทศท่านเลิกทะเลาะกันหรือยัง ตนบอกว่านิ่งสนิทแล้ว เขาก็อยากจะมาประเทศไทยเพราะประเทศไทยน่ารัก


                 ในตอนท้ายพลเอกประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะให้พิเศษในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือไปอยู่ที่สงขลา ในพื้นที่ที่ทหารดูแลให้ ตรงนี้จะได้เกิดสักที เช่น ไปทำยางแปรรูป ให้มีความต่อนื่อง ดังนั้นรัฐบาลจะเร่งรัดพื้นที่ชายแดน และ 4อำเภอสงขลา แล้วท่านก็เสนอมาว่าต้องการอะไร
 26 พ.ย.57 เมื่อเวลา 09.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2557 (Prime Minister Industry Award 2014) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยตอนหนึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีกับผู้ได้รับรางวัลทุกท่าน ซึ่งท่านทำให้ประเทศไทยมีศักดิ์ศรี และเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจดูแลในส่วนที่เป็นรายได้ให้ของประเทศ สร้างความสัมพันธ์อันดีกับมิตรประเทศอื่น แต่ทั้งนี้ในปีหน้าตนอยากให้มีรางวัล "เดอะเบสออฟเดอะเบส" แบ่งเป็นระดับ ใหญ่ กลางเล็ก แล้วการจัดระดับในการให้รางวัลด้วย


                 อย่างไรก็ตาม ปัญหาในปัจจุบันเรามีปัญหาที่เป็นปัจจัยภายนอกและภายใน ที่ต้องปรับตัวให้ทัน เพราะเราต้องรู้ว่าโลกมองเราอย่างไร เราจะมองจากภายในอย่างเดียวก็จะไม่ทันเขา ต้องดูว่าโลกมองแต่ละประเทศอย่างไร มองความเชื่อมโยง ซึ่งเราต้องนำจุดที่เรามีศักยภาพสร้างแบรนด์ของประเทศ ตนไม่บอกว่าประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมหรืออุตสาหกรรมและเราเป็นเกษตรอย่างเดียวไม่ได้ ยานยนต์อย่างเดียวก็ไปไม่ได้ ทำอย่างไรทั้งสองอย่างทั้งอุตสาหกรรมและเกษตรกรจะสมดุลกัน และจากการที่ตนเดินทางไปประชุมต่างประเทศที่ผ่านเราถูกมองว่าเป็นประเทศเล็กที่ถูกกำหนดโดยกลไกการบริหาร และมีข้อจำกัดผูกพันทางการค้า ที่ผ่านมาเราไม่มีโอกาสเสนอว่าเราต้องการอะไร จึงอยากเสนอว่าหากใครจะไปประชุมที่ไหนต้องไปพูดว่าเราต้องการอะไรบ้าง เราต้องกำหนด โดยเฉพาะในอาเซียน เพราะวันนี้เวลาพูดคุยเจรจาการค้าการลงทุนมีการพูดถึงเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน เชื่อมโยงประชาคม เพราะคำว่าอาเซียนใหญ่กว่าประเทศไทย ที่เราต้องดูแลมนุษยชาติด้วย หน้าที่อาเซียนต้องดูแลมนุษยชาติ ไม่ให้มีความขัดแย้ง ไม่มีความเหลื่อมล้ำ ความยากจนซึ่งเป็นปัญหา และตนอยากให้อาเซียนเป็นศูนย์รวมอาหารโลก รวมทั้งขอย้ำนโยบายไทยบวกหนึ่ง ใครมาลงทุนที่ไทยจะบวกหนึ่งอีกชาติอาเซียน และชาติอาเซียนต้องบวกไทยเพื่อเชื่อมสัมพันธภาพ และเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเกษตร

 แหล่งที่มา  :  คม ชัด  ลึก



Source: ‘นายกฯ’มอบรางวัลอุตสาหกรรม

'ปู'บินนอกได้แต่ต้องขอคสช.

d9fce9d9cgjk6de7dibb9อดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เราต้องให้เกียรติท่าน เราไม่ได้ห้ามไม่ให้ออกนอกประเทศ ยังสามารถเดินทางไปไหนได้ตามปกติ หากจะเดินทางออกนอกประเทศ ก็ขออนุญาต คสช. ซึ่งทุกคนทราบดีว่าต้องทำอย่างไร และ คสช.ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น เพราะไม่ว่าใครที่แสดงความเห็นออกมาแล้วมีคนออกมาเคลื่อนไหว คนๆ นั้นต้องรับผิดชอบ         26 พ.ย. 57  พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สร้างวาทกรรมที่ทำให้เกิดความแตกแยก จะไม่อนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ ว่า ความจริงไม่ว่าใครก็ตามที่พูด หรือสร้างวาทกรรมสร้างความแตกแยก ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็มีมาตรการในการจัดการแตกต่างกันไป เพราะนายกรัฐมนตรี มี 2 สถานะ คือ สถานะที่ทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปให้ได้ และสถานะที่บริหารงานให้เป็นไปตามโรดแม็พการปฏิรูปประเทศ ซึ่งการออกมาเคลื่อนไหวรวมถึงปลุกระดมให้ประชาชนออกมาทะเลาะ ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปแน่นอน

แหล่งที่มา  :  คม  ชัด ลึก

Source: 'ปู'บินนอกได้แต่ต้องขอคสช.

จับแล้ว!มือโปรยใบปลิวต้าน‘รบ.-คสช.’

jkigdhaja8aakhcjjjb8jประวิตร’ ชี้รบ.เดินหน้าแก้ไฟใต้-เชื่อมาเลเซียพร้อมคุยสันติสุข



               พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะรมว.กลาโหม และรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า สำหรับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนได้ชี้แจงในที่ประชุมครม.ว่าเราได้งบประมาณลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 25,600 ล้านบาท ซึ่งทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้รวบรวมเอกสารจำนวน 8 เล่ม ที่สำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่โดยตรงเสนอขึ้นมาว่าประชาชนแต่ละหมู่บ้านมีความต้องการสิ่งใด เพื่อให้ทุกกระทรวง ทบวง กรมที่มีส่วนในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ใช้งบประมาณจากที่รัฐบาลจัดสรรให้ในปีนี้


               ทั้งนี้ตนได้เสนอให้ทุกกระทรวง ทบวง กรมลงพื้นที่ไปดูและปรับโครงการต่าง ๆ ให้ตรงสอดคล้องกับกอ.รมน.ภาค 4 สน.เสนอมา เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งงศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)พร้อมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ (คปต.) ก็จะลงพื้นที่ไปดูโครงการต่าง ๆ หากโครงการใดยังไม่ได้ดำเนินการหรือดำเนินการไม่ตรงกับความต้องการ คปต.ก็จะมาบอกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้แจ้งกับกระทรวง ทบวง กรมไปหารือกับกอ.รมน.ภาค 4 สน. เพื่อปรับโครงการให้ตรงกันกับความต้องการของประชาชน


               เมื่อถามถึง กรณีที่มีกระแสข่าวว่าประเทศมาเลเซียต้องการยืดเวลาการพูดคุยเพื่อสันติสุขออกไปจนกว่าไทยจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ทราบและยังไม่มีข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ทางประเทศมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก ไม่ได้มากำกับไทย เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายในของไทยตนเชื่อว่าทางมาเลเซียพร้อมช่วยประเทศไทยในการอำนวยความสะดวกในการพูดคุยทุกกรณี
ประวิตร’ ให้เหล่าทัพติดตามสถานการณ์ช่วงปฏิรูป-หนุนงาน สปช.



               เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 พ.ย. ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 9/2557 ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหมเป็นประธานว่า กระทรวงกลาโหมได้กำหนดจัดทำโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนในภาพรวมของกระทรวงกลาโหมตามบัญชาของนายกรัฐมนตรี โดยการดำเนินงานและความรับผิดชอบขอหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ แบ่งเป็น3 กลุ่มงาน จะดำเนินการทั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่ และตลอดปี 2558 ดังนี้ 1.กลุ่มงานสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จำนวน 19แผนงานหรือโครงการ อาทิ การเพิ่มมาตรการของด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังป้องกันชายแดน และการก่อสร้างและปรับปรุงถนนที่ชำรุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น การจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้างและรถโดยสารขนาดเล็ก (รถตู้) ในพื้นที่กทม. โครงการ“คืนคนดีสู่สังคม” ในศูนย์วิวัฒน์พลเมืองของกองทัพบก การจัดตั้งศูนย์ประสานการปฏิบัติเพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งทะเล และจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวทางทะเล


               พ.อ.คงชีพ กล่าวต่อว่า 2.กลุ่มงานช่วยเหลือประชาชนและพัฒนาอาชีพจำนวน 22 แผนงานหรือโครงการ อาทิ งานก่อสร้างเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ชนบท งานจัดหาน้ำกินน้ำใช้ การเปิดศูนย์การเรียนรู้ในหน่วยทหาร การมอบผ้าห่มกันหนาวการส่งเสริมอาชีพประชาชนโดยการสร้างสถานที่ตั้งกลุ่มจัดหาการฝึกอบรมให้ความรู้ด้านวิชาชีพ การจัดตั้งหมู่บ้านตัวอย่างตามรอยเท้าพ่อ 30หมู่บ้าน การจัดชุดบริการทางการแพทย์เคลื่อนที่เข้าพื้นที่ชนบทและห่างไกล และการจัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์พื้นที่สาธารณะ 3.กลุ่มงานการให้บริการด้านต่างๆ จำนวน 9 แผนงานหรือโครงการ อาทิ การตั้งจุดพักรถและให้บริการประชาชน และการเปิดแหล่งท่องเที่ยวหรือพิพิธภัณฑ์ของทหารโดยไม่คิดค่าบริการ และการจัดแสดงดนตรีเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับประชาชนในห่วงเทศกาลปีใหม่
ประวิตร’ พร้อมลงพื้นที่ดูแลประชาชนเน้นปัญหาร้องเรียน



               เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะรมว.กลาโหม และรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่แต่ละจังหวัดเพื่อดูแลประชาชนว่า การลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีนั้นมีเป็นประจำอยู่แล้ว และได้ทำในทุกรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้คณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้แบ่งพื้นที่ให้กับรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 5 คนได้ดูแลเป็นที่เรียบร้อย และให้ลงพื้นที่แต่ละจังหวัดโดยเน้นดูแลเรื่องการร้องเรียนจากประชาชนจากความเดือดร้อนของประชาชนว่าประชาชนร้องเรียนในเรื่องใดก็จะไปดูเรื่องนั้นเป็นสำคัญ โดยจะประสานงานกับศูนย์ดำรงธรรมแต่ละจังหวัดว่ามีสิ่งใดที่รัฐบาลสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเร่งด่วน ซึ่งในส่วนของตนได้รับมอบหมายให้ดูแล 17 จังหวัดพื้นที่ภาคกลาง

แหล่งที่มา :  คม  ชัด  ลึก


Source: จับแล้ว!มือโปรยใบปลิวต้าน‘รบ.-คสช.’

โปลิศทุ่งใหญ่จับกัญชาผงะเจอระเบิด

892879โดยที่เกิดเหตุ อยู่ในขนำกลางสวนยาง ไม่มีเลขที่ หมู่ 6 ต.ท่ายาง ตรงกันข้ามโรงเรียนทุ่งใหญ่วิทยาคม พบนายธีระพล รัตนยุทธ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 28Per1 หมู่ที่ 2 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ อาชีพรับจ้างกรีดยาง กำลังนั่งสูบกัญชาอยู่ในขนำ จึงเข้าจับกุมได้พร้อมของกลางกัญชาผง จำนวนหนึ่ง และอุปกรณ์การเสพ

จากตรวจสอบรอบ ๆ ที่พัก เจ้าหน้าที่พบระเบิดชนิดลูกเกลี้ยง พร้อมใช้งาน วางอยู่ที่โคนต้นยาง 1 ลูก โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าเสพกัญชาจริง แต่ระเบิดลูกดังกล่าว ไม่ทราบว่าเป็นของใคร นำมาวางทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อไร อย่างไรก็ตามในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบว่า มีวัยรุ่นมั่วสุมเสพกัญชากันอยู่เป็นประจำ จึงคาดว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวอาจจะพกพาระเบิดมาด้วย แต่พอเสพกัญชาแล้วก็ลืมทิ้งเอาไว้ ซึ่งจะได้เรียกตัวมาสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปเมื่อวันที่ 26 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.ไพโรจน์ เมืองสุวรรณ สวป.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ว่าเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ตนเองพร้อมกับ ร.ต.ท.โสฬส มุสิกนิลพันธ์ รอง สวป.สภ.ทุ่งใหญ่ นายอุดม ช่วยประคอง ประธาน อส.ตร. และกำลังชรบ. เข้าทำการจับกุมผู้เสพกัญชา ได้ 1 ราย พร้อมระเบิด ชนิดลูกเกลี้ยงอีก 1 ลูก

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Reference: โปลิศทุ่งใหญ่จับกัญชาผงะเจอระเบิด

สลดนักศึกษาปี4มหาวิทยาลัยดังผูกคอตาย

892773พระอธิการมงกุฏ สันตจิตโตเจ้าอาวาสวัดเหนือแวงน่าง เปิดเผยว่า ไม่มีผู้ใดพบเห็นว่าผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะวันนี้พระที่วัดส่วนใหญ่ได้รับกิจนิมนต์ไปฉันเพลนอกวัด และประกอบพิธีสงฆ์ให้แก่ญาติโยมในหมู่บ้าน มีเพียงพระลูกวัดที่อายุค่อนข้างมากอยู่เฝ้าภายในวัดเพียง 2 รูป และอยู่ในกุฏิห่างจากกุฎิพระธีระพล ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุประมาณ 30 - 40 เมตร กระทั่งบ่ายมีชาวบ้านผ่านมาพบเห็นเข้า จึงรีบโทรแจ้งอาตมาให้ทราบ จึงพากันเดินทางกลับวัดทันที และได้รับทราบจากญาติโยมที่บอกว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เบื้องต้นจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยต้องสงสัย คาดว่าผู้ตายคงมานั่งภายในวัดแล้วเกิดความเครียดก่อนจะใช้ลวดที่วางทิ้งไว้ อยู่ใต้กุฎิแขวนคอต

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 25 พ.ย. ร.ต.อ.สมภพ พลวิเศษ ร้อยเวร สภ.เมืองมหาสารคาม ได้รับแจ้งมีผู้ผูกคอตาย ภายในวัดเหนือแวงน่าง ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ไปตรวจสอบพร้อม แพทย์รพ.มหาสารคาม และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ที่เกิดเหตุบริเวณใต้ถุนกุฏิวัดเหนือแวงน่าง ซึ่งเป็นกุฏิไม้ 2 ชั้น พบศพนายมานพ ปาละโค อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปี 4 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ใช้ลวดพันคอแขวนกับคานไม้ใต้ถุนกุฏิ ใกล้กันพบเก้าอี้พลาสติกสีฟ้า คาดว่าผู้ตายใช้ปีนขึ้นไปผูกคอตาย และไม่ไกลจากกุฏิพบรถจยย. ทะเบียน1 กฆ มหาสารคาม 6019 จอดอยู่

สอบ สวนนายคูณ ปาละโค อายุ 57 ปี พ่อผู้ตายให้การว่า นายมานพเป็นลูกชายคนสุดท้องใกล้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ปกติจะอยู่หอพักใกล้มหาวิทยาลัย ปกติ 2 สัปดาห์จะเดินทางกลับบ้านที ล่าสุดลูกชายเพิ่งเดินทางออกจากบ้านเมื่อช่วงสายวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา บอกว่านัดจะไปทำงานกลุ่มกับเพื่อนเพื่อเตรียมพรีเซนต์อาจารย์ก่อนจบ ตนรู้สึกเป็นห่วง เพราะทราบว่าลูกป่วยเป็นโรคซึมเศร้าชอบเก็บตัว ไม่ค่อยพูด และเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตมาก ช่วงกลางวันยังโทรฯมาหาลูกอีก จนลูกบอกไม่อยากให้โทรฯมาบ่อยเกินไปเพราะมีงานยุ่งมาก ไม่คิดว่าลูกจะมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

แหล่งที่มา :  เดลินิวส์

Supply: สลดนักศึกษาปี4มหาวิทยาลัยดังผูกคอตาย

วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

บิ๊กตู่ขู่จัดการตร.ใหญ่ถ้าทำผิด

892392พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีแนวคิดในเรื่องการปฏิรูปตำรวจอยู่แล้ว โดยจะมีระบบคุณธรรมในการแต่งตั้ง และบังคับใช้กฎหมายให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม วันนี้มีการตั้งกองทุนยุติธรรม เพื่อให้ประชาชนที่ไม่มีเงินได้สู้คดี เป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางด้านกฎหมาย ตนฝันว่าจะปฏิรูปในทุกองค์กร รวมถึงกองทัพด้วย ไม่ใช่การไปยึด ไปรื้อ แต่ไปดูว่าทำอะไรแล้วเป็นประโยชน์ เกิดความไว้วางใจมากขึ้น โดยต้องเขียนกฎหมายที่สังคมยอมรับได้ และที่ต่างชาติใช้กันอยู่ และเอากฎหมายที่ต่างชาติใช้กันอยู่มาศึกษา เพราะถ้าเราเขียนของเราเองก็จะมโนไปเรื่อย.

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม) ถึงการคอร์รัปชั่นในวงการตำรวจ ว่า ต้องตรวจสอบไปตามกลไกปกติ โดยไม่มีการเร่งดีกรี หรือจะไปจี้สอบจุดไหนเป็นพิเศษ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ผิดต้องว่าไปตามผิด และไม่อยากให้พูดว่าวงการตำรวจมีการทุจริต เพราะเป็นพฤติกรรมของตำรวจบางนาย ส่วนตำรวจอื่น ๆ ที่ดียังมีอีกมาก ตนขอบอกว่าไม่ว่าจะเล็ก จะใหญ่ ผิดคือผิด ก็ต้องสู้คดีกันไป และอย่าเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง การแต่งตั้งตำรวจจะต้องมีระบบคุณธรรม ถ้าการเมืองไม่เข้าไปเกี่ยวข้องก็จะทำให้ทุกเรื่องดี การเมืองต้องอยู่ในการเมือง ฝ่ายบริหารก็ต้องอยู่ฝ่ายบริหาร เส้นอำนาจระหว่างการบริหารและการปกครองมันชิดกันมาก แต่จะไปชี้ว่าต้องตั้งคนนั้นคนนี้ คงจะไม่ได้ ตนไม่เคยทำ ถ้าเขาเสนอมาแล้วไม่เห็นด้วยก็ให้กลับไปทบทวนใหม่

เมื่อถามว่าจะมีการสาวไปถึงตัวการใหญ่ที่รับส่วยจากการค้าน้ำมันเถื่อนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องดำเนินการ หากพบว่าเกี่ยวพันใครก็ถึงคนนั้น จับกุมหมด ทุกอย่างเป็นไปตามหลักฐาน ตนหวังว่าปัญหาเรื่องการรับส่วยจะลดลง ต่อข้อถามว่าขณะนี้ประเทศเรามีอะไรดำมืดอยู่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องไปหาดู อย่าไปคิดเอาเอง ซึ่งขณะนี้ก็ออกมาให้เห็นแล้วว่าไม่มีอำนาจใดมาปกป้องได้ ถ้าทำความผิด และมีหลักฐาน ตำรวจใหญ่ขนาดไหน ก็ต้องถูกดำเนินคดี อย่าไปคิดว่าถ้ามีใครปกป้องเขาแล้วจะดำเนินคดีได้หรือไม่ ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: บิ๊กตู่ขู่จัดการตร.ใหญ่ถ้าทำผิด

ประยุทธ์ลั่นไม่ยอมให้ตั้งเวทีด่าคสช.รัฐบาล

892440นายกรัฐมนตรี ยังได้ชี้แจงถึงคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจ จ.ขอนแก่น 5 นาย ไปประจำศูนย์ปฏิบัติการ ภ.4 ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายในของตำรวจ เป็นเรื่องของการทำงานที่อาจจะมีปัญหาก็ต้องมีการลงโทษ ไม่ใช่เพราะปล่อยให้มีกลุ่มนักศึกษาออกมาต่อต้านตน ซึ่งตำรวจได้ชี้แจงมาว่าจำเป็นต้องทำเช่นนี้ เพื่อให้เป็นตัวอย่าง ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป ซึ่งได้พูดคุยกันแล้วตำรวจก็เข้าใจ เชื่อว่าไม่ได้เป็นการบั่นทอนกำลังใจ ต้องเห็นใจและเข้าใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเข้าใจตนด้วยว่าทำไมไม่ให้จับนักศึกษาเหล่านั้นไป เพราะตนเมตตาเด็กเหล่านั้น ซึ่งตำรวจเองก็ถือเป็นผู้เสียสละยอมทุกอย่าง เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ตนไม่ได้ต้องการไปลงโทษหรือให้ร้ายตำรวจ

เมื่อถามว่าจะทำให้การลงพื้นที่ในครั้งต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเกิดความหวาดระแวงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่ใช่การระแวง แต่เป็นเรื่องการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถ้าไม่มีเหตุการณ์ก็ไม่ถูกลงโทษ ตำรวจก็ระวัง ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดขึ้นอีก ไม่ใช่เป็นเพราะผมกลัว ผมไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว ใครจะใจร้ายกับผมก็เชิญ แต่มันเป็นไปตามกติกา ต่อหน้าคนของสังคมมากมาย มีทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ จะให้เกิดความขัดแย้งไม่ได้"

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงถึงแนวคิดเปิดเวทีให้นักศึกษาที่เห็นต่าง ได้มีเวทีแสดงความคิดเห็นว่า ตนได้สั่งการไปแล้วว่าให้มีการการเปิดเวทีให้นักศึกษาได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยน ซึ่งเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมของสภาชุมชน ตนก็ได้นั่งฟังอยู่หลายนาที ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่จะทำอย่างไรให้นำมาสู่การปฏิบัติให้ได้ แต่การตั้งเวทีนั้น ไม่ใช่การจัดประชุมเพื่อด่า คสช. หรือรัฐบาล ไม่เช่นนั้นถือว่ามีความผิด บางอย่างเมื่อขอร้องแล้วก็ต้องฟังกัน ซึ่งตนพร้อมรับฟังและได้สั่งการให้รับเรื่องจากทั้งหมดแล้ว

"เราไม่ได้ต้องการลงโทษใคร เห็นใจผมบ้าง ผมรับฟังหมด เวทีที่ธรรมศาสตร์ หรือสภาประชาชน ผมก็รับฟังหมด วันนี้เราเปิดเวทีให้นักศึกษาและนักวิชาการส่งตัวแทนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ก็ขอให้เข้ามา ถ้าไม่เข้ามาก็อย่าไปเรียกร้องข้างนอก อย่ามาต่อต้านกันวันนี้"นายกรัฐมนตรี กล่าว

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: ประยุทธ์ลั่นไม่ยอมให้ตั้งเวทีด่าคสช.รัฐบาล

เสนอบรรจุชาวนาเป็นอาชีพสงวน

892302ด้าน นายเทียนฉาย กล่าวว่า ประเด็นที่เกี่ยวกับชาวนามีหลายเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ดินทำกิน รวมถึงเรื่องการผลิต การขาย พันธุ์ข้าว ราคาวัตถุดิบ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องปฏิรูปทั้งระบบไปพร้อม ๆ กัน การแก้ปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งไม่อาจบรรลุผลสำเร็จได้ ทั้งนี้ หวังว่าทางกลุ่มจะมีประเด็นเพิ่มเติมมาเสนอ สปช. และ สปช.จะดำเนินการส่งให้ กมธ.ที่เกี่ยวข้องอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนการตั้งอนุกรรมาธิการฯ นั้น ขณะนี้เรามีอนุกรรมาธิการเกษตรกรอยู่แล้ว แต่จะมีการพูดคุยเพื่อเสนอให้พิจารณาอีกครั้งด้วยเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่รัฐสภา สหพันธ์สมาคมชาวนาไทย (สชท.) นำโดย นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน ประธานสมาพันธ์สมาคมชาวนาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยแกนนำชาวนา อาทิ  นายระวี รุ่งเรือง ประธานเครือข่ายชาวนาไทย ยื่นหนังสือต่อนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้บัญญัติในรัฐธรรมนูญให้อาชีพชาวนาเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย และให้คงอยู่กับประเทศไทย ส่วนรายละเอียดให้ออกเป็นกฎหมายลูกตามมา นอกจากนี้ยังพบว่าพื้นที่ภาคกลางมีกลุ่มนายทุนกว้านซื้อที่นาเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปใช้ทำประโยชน์ในด้านอื่น จึงควรบัญญัติให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาการถูกนายทุนซื้อพื้นที่การทำนา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อประเทศไทยในอนาคต

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: เสนอบรรจุชาวนาเป็นอาชีพสงวน

วิธีเลือกกล้องวงจรปิด เพื่อบ้านปลอดภัย

main_cameraข่าวคราวจี้ ชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายในที่สาธารณะ มีให้เห็นถี่ขึ้นทุกวัน หลายคดีจับผู้ต้องหาไม่ได้ แต่หลายๆ คดีก็ได้ “กล้องวงจรปิด” เป็นตัวช่วยในการสืบเสาะหาคนร้ายมาดำเนินคดี ดังนั้นจึงเห็นว่าในปัจจุบันนอกจากกล้องวงจรปิดของภาครัฐที่ติดให้บริการโดย ทั่วไปแล้ว ยังมีกล้องวงจรปิดของห้างร้านเอกชน รวมถึงบ้านพัก ส่วนตัวหันมาติดกล้องวงจรปิดเพื่อเป็นหูเป็นตาสอดส่องเรื่องความไม่ปลอดภัย เพิ่มมากขึ้น และหากบ้านเราอยากติดกล้องวงจรปิดบ้าง จะเริ่มต้นอย่างไรดี Sanook ! Home จึงรวบรวมข้อมูลการเลือกกล้องวงจรปิดมาให้ทราบกันเบื้องต้น

หลักในการติดตั้งกล้องวงจรปิด
-ควรติดตั้งในบริเวณที่สามารถมองเห็นพื้นที่ทั้งหมด เพื่อจับตาความเคลื่อนไหวได้อย่างครอบคลุม
-ควรติดตั้งกล้องไว้ภายนอกจะช่วยเตือนภัยล่วงหน้าเมื่อมีผู้บุกรุก
-ควร ติดตั้งกล้องไว้ในมุมสูงเพื่อป้องกันการโดนขโมยกล้อง การทุบทำลาย หรือเอาอะไรมาคลุมทำให้มองไม่เห็น แต่ตำแหน่งที่สูงก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังขณะติดตั้งด้วย และระวังเรื่องการติดกล้องไปในตำแหน่งที่เห็นบ้านของเพื่อนบ้าน เพราะอาจกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายได้
-จะติดแบบซ่อนกล้องหรือไม่ซ่อนก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการ เพราะหากซ่อนกล้องจะได้ภาพที่ไม่เสแสร้ง ซึ่งเป็นประโยชน์มากในการพิจารณาในศาล แต่หากติดแบบไม่ซ่อนกล้องก็จะช่วยป้องกันอาชญากรได้ในระดับหนึ่ง

ก่อนติดกล้องวงจรปิด
-สถานที่ๆ ติดตั้งคือบริเวณไหน มีแสงสว่างหรือไม่มี มีการเปลี่ยนแปลงของแสงในบริเวณนั้นมากเพียงใด
-จะติดตั้งภายในหรือภายนอกอาคาร
-ค่าความละเอียดของภาพที่ต้องการ
-เลนส์ของกล้องเป็นแบบไหน แก้วหรือพลาสติก
-พิจารณาเครื่องบันทึกภาพที่ต้องทำงานควบคู่กับกล้องวงจรปิดว่าขั้นตอนการใช้งานยากง่ายเพียงใด
-อัตราการแสดงภาพของเครื่องบันทึกภาพ
-ลักษณะการบันทึกภาพเป็นแบบไหน
-คุณภาพของภาพในการบันทึกและนำกลับมาใช้ใหม่
-ความ สามารถต่างๆ ของระบบเช่นสามารถดูผ่านอินเทอร์เน็ตได้ไหม มีการเชื่อมต่อกับมือถือเพื่อสะดวกในการเช็คดูภาพขณะไม่ได้อยู่บ้านหรือไม่

เลือกกล้องวงจรปิดรุ่นไหนดี
ประเภทตัวกล้องวงจรปิด มีหลายรูปแบบการใช้งาน ทั้งแบบธรรมดาและแบบปรับเลนส์ได้ แบบมองกลางวัน มองกลางคืนรวมทั้งยังมีแบบหมุน และซูมได้ สำหรับการเลือกกล้องวงจรปิดต้องคำนึงถึงตำแหน่งที่เราต้องการติดตั้ง หากต้องการติดตั้งในตำแหน่งที่คอยสอดส่องทรัพย์สินมีค่าประเภทตู้เซฟ โต๊ะเก็บเงิน ประตูทางเข้าออก ต้องใช้กล้องวงจรปิดแบบมีมาตรฐาน ประเภทกล้องวงจรปิด CCTV ที่ตัวกล้องควรใช้เลนส์คุณภาพสูงและสามารถหมุนได้เป็นวงกลมอิสระ มีอินฟราเรดที่สามารถถ่ายภาพตอนกลางคืนได้ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้มีแสงมาส่องกระทบกล้อง เช่นติดริมถนน มีแสงไฟจากหน้ารถส่องมากระทบโดยตรงจะทำให้ไม่สามารถเห็นภาพได้ สำหรับการติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้นจะใช้บริการช่าง หรือติดตั้งเองก็ทำได้ เนื่องจากในปัจจุบันมีกล้องวงจรปิดที่เจ้าของบ้านสามารถติดตั้งได้ด้วยตนเอง โดยจะต้องมีการกำหนดพื้นที่ๆ ต้องการติดกล้องวงจรปิดก่อน จากนั้นพิจารณาว่าต้องใช้กล้องทั้งหมดกี่ตัว

บทความดีๆจาก:sanook.com

Source: วิธีเลือกกล้องวงจรปิด เพื่อบ้านปลอดภัย

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โสมแดงเตือนผลลัพธ์เลวร้ายหากฟ้องศาลโลกละเมิดสิทธิ์ฯ

890523มติดังกล่าวซึ่งเสนอโดยญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปหรืออียู และผู้สนับสนุนร่วมอีกประมาณ60ประเทศถูกร่างขึ้นตามผลการสอบสวนของคณะสอบสวนยูเอ็นที่สรุปในเดือนก.พ.ที่ผ่านมาว่าเกาหลีเหนือละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในโลกยุคใหม่ซึ่งตั้งแต่นั้นมาเกาหลีเหนือประณามมติดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเป็นการต้มตุ๋นทางการเมืองและเตือนว่ามันจะผลักดันให้เกาหลีเหนือทำการทดลองนิวเคลียร์ครั้งใหม่

เอ็นดีซีซึ่งมีนายคิมเป็นประธานแถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่าร่างมติดังกล่าวเท่ากับเป็นการประกาศสงครามพร้อมทั้งได้หยิบยกเรื่องนี้หารือกับนายคิมจอง-อึนแล้วสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 23พ.ย.ว่าคณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติหรือเอ็นดีซีซึ่งเป็นองค์การสูงสุดของกองทัพเกาหลีเหนือเตือนเมื่อวันอาทิตย์ว่า“จะเกิดผลลัพธ์เลวร้าย”สำหรับผู้ที่สนับสนุนมติประณามเกาหลีเหนือล่าสุดของสหประชาชาติหรือยูเอ็น เกี่ยวกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนขณะที่สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานว่านายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเข้าร่วมเป็นประธานในการซ้อมรบครั้งใหม่โดยมติของยูเอ็นซึ่งเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นฟ้องร้องผู้นำเกาหลีเหนือต่อศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไอซีซี ในข้อหา“ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”ซึ่งผ่านมติความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น111ต่อ 19เสียงและงดออกเสียง 55เสียงในคณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชนสมัชชาใหญ่ยูเอ็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: โสมแดงเตือนผลลัพธ์เลวร้ายหากฟ้องศาลโลกละเมิดสิทธิ์ฯ

ฟิลิปปินส์รำลึก5ปีสังหารหมู่การเมือง58ศพ

890454เหตุการณ์ฆ่าหมู่เมื่อวันที่23พ.ย.2552ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของตระกูลอัมปาตวนเพื่อต้องการขัดขวางคู่แข่งทางการเมืองไม่ให้ลงสมัครรับตำแหน่งชิงตำแหน่งผู้ว่าการจังหวัดโดยนายอันดัล อัมปาตวนจูเนียร์ ผู้สมัครจากตระกูลอัมปาตวนถูกกล่าวหาว่า นำกองกำลังติดอาวุธของครอบครัวไปขัดขวางขบวนรถของภรรยาญาติของคู่แข่งและกลุ่มนักกว่า30คนและจากนั้นก็กราดยิงพวกเขา

ในเวลาต่อมาศพของเหยื่อถูกพบในหลุมศพขนาดใหญ่บริเวณพื้นที่ภูเขาที่ห่างไกลของจังหวัดนายอันดัล อัมปาตวน จูเนียร์,พี่ชายและพ่อของเขาอยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัย111คนที่ถูกดำเนินคดีอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ศาลกล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยจำนวนมากยังคงหลบหนีลอยนวลและคณะอัยการก็ไม่คาดว่าศาลทำการพิจารณาคดีได้จนกว่าจะถึงปีหน้าเป็นอย่างเร็วสุด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลาประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่23พ.ย.ว่าฟิลิปปินส์จัดพิธีรำลึกครบรอบ5ปีเหตุการณ์สังหารหมู่ทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดของประเทศซึ่งมีผู้เสียชีวิต 58ศพเหยื่อผู้เสียชีวิตซึ่งรวมทั้งผู้สื่อข่าวถูกฆ่าหลังจากขบวนรถของพวกเขาถูกโจมตีในจังหวัดมากูอินดาเนาทางตอนใต้ของประเทศโดยผู้ต้องสงสัยมมากกว่า100คนถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรมซึ่งบางคนเป็นสมาชิกของตระกูลอัมปาตวนตระกูลทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลในท้องถิ่น

องค์การนิรโทษกรรมระหว่างประเทศระบุว่า การดำเนินคดีเสี่ยงที่จะเป็นแค่“กระบวนการยุติธรรมแบบหลอกๆ” กาลัง ฟอลลีนักวิจัยชาวฟิลิปปินส์ขององค์การนิรโทษกรรมระหว่างประเทศกล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมที่ถูกเลื่อนก็ไม่ต่างอะไรกับกระบวนการยุติธรรมที่ถูกปฏิเสธโดย 5ปีหลังจากเหตุสังหารหมู่มากูอินดาเนาคดียังไม่มีความคืบหน้าและยังไม่มีผู้ต้องหาแม้แต่คนเดียวถูกดำเนินคดี

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: ฟิลิปปินส์รำลึก5ปีสังหารหมู่การเมือง58ศพ

สหรัฐเตือนน้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่หิมะถล่ม

890410เมืองบัฟฟาโล คาดว่ามีหิมะตกหนักที่สุดในช่วง3วันที่ผ่านมาซึ่งเท่ากับหิมะตกปกติในหนึ่งปีโดยในบางพื้นที่ วัดความสูงได้ 2.4เมตรและบางพื้นที่ก็ตกเพิ่มอีก0.9เมตรเมื่อต้นสัปดาห์นอกจากนี้ สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของสหรัฐแถลงว่า หลายพื้นที่ในภาคตะวันตกของนิวยอร์กมีหิมะทับถมสูงกว่า 2เมตรในสัปดาห์นี้และขณะนี้ ก็ยังมีคำเตือนน้ำท่วมอีกก่อนหน้านี้พื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังน้ำท่วมซึ่งเรียกร้องให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือความเป็นไปได้ที่อาจเกิดน้ำท่วมขณะที่ทางการออกคำเตือนน้ำท่วมรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

คำเตือนน้ำท่วมดังกล่าวถูกประกาศในเมืองเอรี,เกเนสซี,ไวโอมิง,ชาตัวกัว,คัตตารอกัสทางตอนเหนือ และอีกหลายเมืองทางตอนใต้รวมทั้งเมืองบัฟฟาโล,บาตาเวีย,วอร์ซอว์,เจมส์ทาวน์,ออลีน,ออร์ชาร์ดปาร์ค และสปริงวิลสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐเมื่อวันที่ 23พ.ย.ว่าหิมะที่ตกหนักทำสถิติซึ่งฝังหลายเมืองใกล้เมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย14ศพอาจทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นเนื่องจากคาดว่าอุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้หิมะละลาย ขณะที่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐหิมะเริ่มตกน้อยลงแล้วเจ้าหน้าที่รัฐบาลในรัฐนิวยอร์ก มีความวิตกกังวลว่าอาคารบางหลังอาจพังถล่มลงมาอย่างไรก็ตาม รัฐนิวยอร์กยังคงเป็นอัมพาตเนื่องจากหิมะท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์

แหล่งที่มา   :  เดลินิวส์

Source: สหรัฐเตือนน้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่หิมะถล่ม

อันตราย โจรกินีปล้นกล่องบรรจุตัวอย่างเลือดผู้ป่วยอีโบลา

EyWwB5WU57MYnKOuFIvEEH3Hm8g4hHgSmRaVEy4Jxpbs4nKSuAB2ijขณะที่นาย ฟายา เอเตียง โตลโน โฆษกของสภากาชาดกินีกล่าวว่า พวกเขากำลังประสบปัญหาขาดแคลนยานพาหนะเพื่อขนส่งสิ่งของต่างๆ ทำให้ต้องใช้รถแท็กซี่ในการขนส่งตัวอย่างเลือด โดยนายโตลโนเชื่อว่า หัวขโมยไม่รู้ว่าภายในกล่องเก็บความเย็นบรรจุตัวอย่างเลือดผู้ป่วยอีโบลา

ด้านดร. แบร์รี มูเม หัวหน้าแผนกดูแลผู้ป่วยของคณะกรรมการความร่วมมือตอบสนองเชื้ออีโบลาแห่งชาติ บอกต่อสำนักข่าวเอพีว่า หากขโมยกลุ่มนี้ได้ตัวอย่างเลือดไปจริง จะเป็นเรื่องที่อันตรายมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้เรียกร้องถึงขโมยไม่ทราบชื่อกลุ่มผ่านสถานีวิทยุแห่งชาติ นี้แล้วเมื่อวันศุกร์ ว่า ให้นำตัวอย่างเลือดมาคืน

ทั้งนี้ ไวรัสอีโบลาทำให้มีผู้เสียชีวิตในประเทศไลบีเรีย, เซียร์ราลีโอนและกินีแล้วมากกว่า 5,400 คน จากจำนวนผู้ป่วยที่พบประมาณ 15,000 ราย โดยเชื้ออีโบลาสามารถติดต่อกันได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผุ้ป่วยเช่น เหงื่อ, เลือด, อุจจาระ หรือน้ำอสุจิ

ซา มามาดี เลโน เจ้าหน้าที่หน่วยงานกาชาดในเมือง เกคเคดู ทางใต้ของประเทศกินี เปิดเผยว่า ตัวอย่างดังกล่าวถูกบรรจุอย่างแน่นหนาในหลอดทดลองในกล่องเก็บความเย็น โดยเจ้าหน้าที่กาชาดโดยสารรถแท็กซี่ร่วมกับผู้โดยสารคนอื่นๆอีก 8 คน เดินทางจากจังหวัดคันกันในภาคกลางของประเทศ ไปยังศูนย์ทดลองในเมือง เกคเคดู ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 265 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตามระหว่างทาง โจรกลุ่มหนึ่งโผล่มาบังคับให้แท็กซี่หยุดรถ และบังคับผู้โดยสารลงจากรถ ก่อนจะปล้นเอาโทรศัพท์มือถือหลายเครื่อง, เงินสดและอัญมณีหลายชิ้น จากนั้นยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่ให้เจ้าหน้าที่กาชาดส่งกล่องเก็บความเย็นบรรจุ ตัวอย่างเลือดให้พวกเขาด้วย อนึ่งไม่มีใครได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ปล้นครั้งนี้

โจรกลุ่มหนึ่งในประเทศกินีก่อเหตุปล้นทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่กาชารวมถึง กล่องบรรจุตัวอย่างเลือดของผู้ติดเชื้ออีโบลา ซึ่งมีความเสี่ยงว่าโจรกลุ่มนี้อาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายโดยรู้เท่าไม่ถึง การณ์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (21 พ.ย.) โจรกลุ่มหนึ่งในประเทศกินี ก่อเหตุปล้นกล่องบรรจุตัวอย่างเลือดซึ่งเชื่อว่าเป็นของผู้ป่วยติดเชื้อ ไวรัส 'อีโบลา' ไปจากเจ้าหน้าที่กาชาดในประเทศกินี ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 ประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ที่กำลังเกิดการระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้

แหล่งที่มา  :  ไทยรัฐ

Source: อันตราย โจรกินีปล้นกล่องบรรจุตัวอย่างเลือดผู้ป่วยอีโบลา

กาฬโรคระบาดในมาดากัสการ์! ตายแล้ว 40 ศพ

EyWwB5WU57MYnKOuFIwA0ofdQjbciQQDSRvVXyzI4wk2KZeuIy9jIWทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายแรกในการแพร่ระบาดของกาฬโรคในมาดากัสการ์ครั้งนี้ พบเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม เป็นชายที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน โซอามาฮาตามานา ในเขต ชิรวนมันดิดี ห่างจากกรุงอันตานานาริโว ไปทางตะวันตกราว 200 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีการยืนยันจำนวนผู้ป่วยอีกสองรายในเมืองหลวง และเสียชีวิตแล้วหนึ่งคน

องค์การอนามัยโลก ระบุเพิ่มเติมว่า ตอนนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของโรค เนื่องจากรุงอันตานานาริโวมีจำนวนประชากรหนาแน่น และระบบสาธารณสุขด้อยประสิทธิภาพ โดยคณะทำงานเฉพาะกิจได้ลงพื้นที่เพื่อจัดการกับการแพร่ระบาดของโรคระบาดนี้ แล้ว

เมื่อปี 2013 ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ได้ออกมาเตือนว่า มาดากัสการ์ จะต้องเผชิญกับกาฬโรค หากมาดากัสการ์ไม่พยายามชะลอการแพร่กระจายของเชื้อโรคชนิดนี้ พวกเขากล่าวด้วยว่า นักโทษที่ถูกคุมขังในเรือนจำที่มีหนูที่ติดเชื้อกาฬโรค เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นพิเศษ

องค์การอนามัยโลก ระบุว่า สถานการณ์การการแพร่ระบาดของกาฬโรคเลวร้ายลง เนื่องจากหมัด ซึ่งเป็นพาหนะนำโรค มีความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงมากขึ้น ทั้งนี้ มนุษย์มักป่วยเป็นกาฬโรคชนิดที่มีอาการต่อมน้ำเหลืองบวมและอักเสบ หลังจากโดนตัวหมัดที่เป็นพาหะนำโรคซึ่งเกาะอยู่บนสัตว์ฟันแทะกัด

สำหรับกาฬโรคชนิดที่มีอาการต่อมน้ำเหลืองบวมและอักเสบ หากตรวจพบได้เร็วก็สามารถรักษาได้โดยใช้ยาปฏิชีวนะ แต่ราว 2% ของผู้ป่วยในมาดากัสการ์ จะมีอาการติดเชื้อรุนแรงที่ปอด ซึ่งรุนแรงกว่าและสามารถแพร่กระจายเชื้อจากคนสู่คนด้วยการไอจามได้ด้วย นอกเหนือจากการติดเชื้อจากสัตว์สู่คน

องค์การอนามัยโลกยืนยัน การแพร่ระบาดของเชื้อกาฬโรคในประเทศมาดากัสการ์ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 40 ศพ และมีผู้ติดเชื้ออีกเกือบ 80 คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกแถลงการณ์สถานการณ์การระบาดของเชื้อกาฬโรค ในประเทศมาดากัสการ์ โดยได้แจ้งเตือนถึงความรุนแรงและการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโรคในเมืองหลวง กรุงอันตานานาริโว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 40 ศพ และมีผู้ติดเชื้อกว่า 80 คน

แหล่งที่มา  :  ไทยรัฐ

Source: กาฬโรคระบาดในมาดากัสการ์! ตายแล้ว 40 ศพ

ธรณีพิโรธเขย่าเสฉวน ดับ 1 บ้านเรือนเสียหายเล็กน้อย

EyWwB5WU57MYnKOuFIwA1QVoZ8G0fpxJq7996ySujulif8DsTnbWb4ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นเมืองคังติงซึ่งเปิดเผยเพียงนามสกุลว่า เซี่ย ระบุว่า แผ่นดินไหวกินเวลานานเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น และมีรายงานว่าพบรอยแตกร้าวที่อาคารหลายหลัง บางแห่งกำแพงถึงกับถล่ม ขณะที่โฆษกรัฐบาลท้องถิ่นเขตกันซี ชื่อ หวัง ตัน เผยว่า หน่วยกู้ภัยถูกส่งไปยังพื้นที่จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวแล้ว

ทั้งนี้ แผ่นดินไหวไม่ส่งผลกระทบต่อการไฟฟ้า, การขนส่งหรือการสื่อสาร และไม่มีรายงานว่าอาคารในเมืองคังติงเกิดความเสียหายรุนแรงด้วย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน อ้างข้อมูลจากสำนักสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติของสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ว่า เมื่อเวลา 16:55น. ตามเวลาท้องถิ่น (15:55น. ตามเวลาไทย) เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงระดับ 5.9 แมกนิจูด จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ความลึก 14.6 กิโลเมตร อยู่ห่างจากเมืองคังติง ในมณฑลเสฉวน ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 39 กิโลเมตร

สถานีโทรทัศน์ ซีซีทีวี และสำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงชราวัย 70 ปี จากการถูกบานกระจกตกใส่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในพื้นที่ภูเขาทางตะวันตกของประเทศจีนซึ่งมีประชาชน อาศัยอยู่น้อย เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และสร้างความเสียหายเล็กน้อยให้แก่อาคารบ้านเรือน

แหล่งที่มา  :  ไทยรัฐ

Source: ธรณีพิโรธเขย่าเสฉวน ดับ 1 บ้านเรือนเสียหายเล็กน้อย

วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โปรอาร์มตาม4สโตรกสวิงมะนิลาฯวันที่3

889675ส่วนผลงานนักกอล์ฟไทยคนอื่น ๆ ที่น่าสนใจ “โลมายักษ์” พรหม มีสวัสดิ์ หวดวันเดียว 9 อันเดอร์ฯ เป็นสถิติสนาม สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 208 รั้งที่ 9 ร่วม “โปรโต๋เต๋” ฐิติพรรษ์ ช่วยประคอง สกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 209 อยู่ที่ 13 ร่วม สัตยา ทรัพย์อัประไมย, “โปรแจซซ์” อติวิชญ์ เจนสัฒนานนท์ ทำ 4 อันเดอร์พาร์ 212 เท่ากัน อยู่ที่ 31 ร่วม ส่วน “โปรเล็ก” ถาวร วิรัตน์จันทร์ กับ รฐนน วรรณศรีจันทร์ ทำสกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 213 รั้งที่ 35 ร่วม   การแข่งขันกอล์ฟ เอเชียน ทัวร์ รายการ รีสอร์ตส์ เวิลด์ มะนิลา มาสเตอร์ส ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32 ล้านบาท) ที่สนามมะนิลา เซาธ์วูดส์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ พาร์ 72 ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันเสาร์ที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบที่ 3 ผลปรากฏว่า มาร์ดาน มามัต โปรชาวสิงคโปร์ ผู้นำหลังจบรอบ 2 ยังโชว์ฟอร์มเยี่ยม หวดเพิ่มอีก 6 อันเดอร์ฯ สกอร์รวม 3 วันเพิ่มเป็น 17 อันเดอร์พาร์ 199 นำโด่งเป็นจ่าฝูงเดี่ยว ส่วน “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ นักกอล์ฟชาวไทย หวดเพิ่ม 4 อันเดอร์ฯ จากการทำ 6 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ สกอร์รวม 3 วันอยู่ที่ 13 อันเดอร์พาร์ 203 ตามหลังผู้นำถึง 4 สโตรก ขณะที่ ลีโอเนล เวแบร์ จากฝรั่งเศส ตามมาเป็นที่ 3 สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 204 ตามหลังผู้นำ 5 สโตรก

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: โปรอาร์มตาม4สโตรกสวิงมะนิลาฯวันที่3

ทีเด็ดชนะคะแนนอามีนฉลุยมวยอีซูซุ

889644ส่วนผลคู่อื่น ฉมวกเพชร ลูกพระบาท ดักเตะดักต่อยโชว์จังหวะฝีมือ สอนเชิงเอาชนะคะแนน เบิกบาน ลูกเมืองเพชร ไปได้แบบขาดลอย, ใบคาน ว.แสงเทพ ชนะคะแนน ดาวเชิงดอย ศิษย์นายกพิเดช, สลาตัน ป.มนต์ชัย ชนะน็อก ยอดกิตติ ต.เปี่ยมทรัพย์แปดริ้ว ยก 2 และ ร่มเกล้าเล็ก เหมสิงนคร ชนะคะแนน เพชรนารายณ์ ศิษย์ตระกูลเถา การแข่งขันมวยไทย "ศึกจ้าวมวยไทย" ที่เวทีมวยสยามอ้อมน้อย เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยคู่เอกเป็นการชกกันในมวยรอบอีซูซุ คัพ ครั้งที่ 25 "อาบังเข่าบิน" อามีน พุ่มพันธ์ม่วง นักชกสายเลือดมุสลิม (มุมแดง) พบกับ ทีเด็ด ศิษย์จ่ากุ้ง (มุมน้ำเงิน) ขุนเข่าจากเมือง "ดอกลำดวน" จ.ศรีสะเกษ ผลปรากฎว่า ทีเด็ด อาศัยความแข็งแกร่งของร่างกายเดินจับปล้ำตีเข่าได้อย่างหนักหน่วง ต้อนเอาชนะคะแนน อามีน ไปได้อย่างสนุก ทะลุเข้ารอบต่อไปในมวยรอบอีซูซุฯ ได้สำเร็จ

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: ทีเด็ดชนะคะแนนอามีนฉลุยมวยอีซูซุ

พาณิชย์ยิ้มเปิดรับลงทุน สถาบันการเงินต่างชาติทะลักเข้าไทย

EyWwB5WU57MYnKOuFIwBBk8j1ytjOM5hcXZeyP0fuY0LLewxo7IJzvสำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุญาตในเดือน พ.ย. ได้แก่ ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่มและบริษัทคู่ค้า จำนวน 14 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 1,043 ล้านบาท ธุรกิจสำนักงานผู้แทน 11 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 34 ล้านบาท ธุรกิจค้าส่ง 3 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 39 ล้านบาท เช่น การค้าส่งถังบรรจุก๊าซธรรมชาติอัดประกอบวาล์วให้แก่กลุ่มอุตสาหกรรมประกอบยานยนต์ ธุรกิจค้าปลีก 1 ราย จากสิงคโปร์ มีเงินลงทุนจำนวน 7 ล้านบาท

ทั้งนี้ ยังมีธุรกิจนายหน้าตัวแทน 1 ราย มีเงินลงทุน 3 ล้านบาท ได้แก่ การทำกิจการนายหน้าจัดหาตลาดเพื่อการจำหน่ายสินค้าให้แก่บริษัทในเครือ โดยมาจากนอร์เวย์ รวมถึงการอนุญาตประกอบการธุรกิจคู่สัญญาภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจ 1 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 249 ล้านบาท ได้แก่ บริการทางวิศวกรรมในการออกแบบโครงสร้างแท่นขุดเจาะน้ำมัน ก่อสร้างและติดตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันให้แก่บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวได้อนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยเดือน พ.ย.57 จำนวน 31 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนต่างด้าวที่ขออนุญาตเพื่อทำธุรกิจในไทยครั้งแรก 19 ราย มีเม็ดเงินลงทุน 1,375 ล้านบาท มีการจ้างงาน 163 คน ส่วนในช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) 57 อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทยแล้ว 385 ราย เพิ่มขึ้น 5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีเงินลงทุน 61,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 245% เพราะธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเป็นธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจบริการทางการเงิน เช่น บัตรเครดิต ให้สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูง

แหล่งที่มา  :  ไทยรัฐ

Source: พาณิชย์ยิ้มเปิดรับลงทุน สถาบันการเงินต่างชาติทะลักเข้าไทย

เฒ่าแดนโสมตกคอนโดดับปริศนา

889199พ.ต.ต.ปรัชญา กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเดินทางเข้ามาอยู่ในเมืองไทยได้เกือบ 1 ปี และได้พักอาศัยอยู่ที่ห้องพักเลขที่ 3199/282 ชั้น 20 ของอาคารดังกล่าว โดยผู้ตายนั้นจะทำสัญญาเช่าไว้ 6 เดือน และมักจะมีเพื่อนชาวเกาหลีแวะเวียนมาหาอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบภายในห้องพักดังกล่าวพบเพียงรอยเท้าอยู่ที่คอยล์ร้อนแอร์ บริเวณระเบียงด้านหลังของห้องพักเท่านั้น อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานทางเจ้าหน้าที่สถานทูตเกาหลี เพื่อร่วมสอบปากคำนาย คิม แท โฮ อายุ 48 ปี เพื่อนร่วมห้องผู้ตายที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและพักอาศัยกับผู้ตายประมาณ 1 เดือนเศษ พร้อมทั้งรอผลการตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุ ของการเสียชีวิตอย่างละเอียดต่อไปเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ร.ต.ท.ชาญชัย โพธิ์พิมล พนักงานสอบสวน สน.บางนา รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากการผลัดตกจากที่สูง บริเวณด้านหน้าอาคาร ซิตี้โฮม คอนโด แขวงและเขตบางนา กทม. จึงพร้อมพ.ต.ต.ปรัชญา บุญยืน สว.สส. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ และอาสากู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดสูง 25 ชั้น ที่บริเวณด้านล่างหน้าของอาคารพบศพนาย คิม ชุง ออง (kimchoong eon) อายุ 70 ปี สัญชาติเกาหลี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อยืดคอปกแขนสั้นสีกรมท่า กางเกงขาสั้นสีดำ สภาพกระโหลกศีรษะแตกละเอียด ซี่โครงทั้ง 2 ข้าง ที่ข้อมีอทั้ง 2 ข้าง พบบาดแผลฉีกขาดกระดูกขาซ้ายหัก 2 ท่อน ใกล้กันพบรถแวนสี่ประตูยี่ห้อ เชฟไรเลต รุ่นแคปติวา สีฟ้า ทะเบียน ฎถ 1299 กทม.จอดอยู่ในสภาพฝากระโปรงหน้ารถและกระจกด้านหน้าพังยับ ห่างออกไป 2 เมตร พบรองเท้าแตะของผู้ตายตกอยู่ 1 ข้างนอกจากนี้ยังพบกระเป๋าถือสีน้ำตาลของผู้ตายตก ตรวจสอบภายในกระเป๋าพบพาสปอร์ตของผู้ตาย สมุดบัญชีเงินฝากบัตรกดเงินสด 4 ใบ

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: เฒ่าแดนโสมตกคอนโดดับปริศนา

อัยการเตรียมกำหนดหลักเกณฑ์โยกย้าย

888974ขณะที่แหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงการเลือกตั้งซ่อมก.อ.ครั้งนี้ว่า พนักงานอัยการทั่วประเทศได้เทคะแนนเสียงให้นายอรรถพล เกินกว่าจำนวนกึ่งหนึ่งของผู้ที่มีสิทธิและผู้ลงคะแนน ไม่ใช่เป็นเพราะการเลือกที่ตัวบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการแสดงพลังที่ไม่ต้องการให้ก.อ.ซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นหลักประกัน ความอิสระของพนักงานอัยการ จะต้องไม่ถูกแทรกแซงจากผู้มีอำนาจหรือจากฝ่ายการเมืองเมื่อวันที่ 21 พ.ย.นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด (อสส.) ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาอัยการสูงสุด เปิดเผย ภายหลังได้รับเลือกเป็นคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ผู้ทรงคุณวุฒิว่า สำหรับก.อ.ซึ่งเป็นองค์กรบริหารงานบุคคลของอัยการและวาง นโยบายในภาพรวมนั้น จะมีการประชุมในวันที่ 26 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งตนก็จะเข้าร่วมในการประชุมด้วย ทั้งนี้ตนทราบว่าก.อ.ท่านหนึ่งได้เตรียมเสนอในที่ประชุมให้มีการตั้งคณะทำ งานอัยการขึ้นเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ การแต่งตั้งโยกย้ายอัยการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นหลักประกันความเป็นอิสระของพนักงานอัยการ รวมทั้งเป็นการลบข้อครหาที่มีกระแสข่าวการแต่งตั้งอัยการสามารถวิ่งเต้นได้ โดยการแต่งตั้งโยกย้ายอัยการในแต่ละปีจะมีด้วยกัน 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกในช่วงเดือน ต.ค.เป็นการแต่งตั้งระดับอธิบดีอัยการ รองอธิบดีอัยการฝ่าย ฯลฯ  ส่วนครั้งที่สอง คือ ในช่วงเดือน เม.ย.เป็นการแต่งตั้งระดับอัยการจังหวัด หรือ อัยการที่อยู่ในต่างจังหวัด และอัยการระดับชั้น 5 ลงมา โดยพนักงานอัยการจะต้องเป็นผู้ยื่นคำร้องและจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภาย ในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อเตรียมประกาศให้พนักงานอัยการรับทราบโดยทั่วกัน

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: อัยการเตรียมกำหนดหลักเกณฑ์โยกย้าย

จับเวียดนามแทงเสี่ยบริษัทร่ม

889205นายกุ๋ย ให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับผู้ตายมาประมาณ 10 ปี ตนมีอาชีพเป็นพ่อครัวร้านอาหาร ซึ่งผู้ตายจะมากินบ่อย เวลาเจอกันทุกครั้งจะถูกด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ว่าทำอาหารไม่อร่อยก่อนหน้านี้แฟนสาวของตนเคยทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้าน เดียวกันซึ่งแฟนสาวมักจะมาเล่าให้ฟังว่าถูกผู้ตายลวนลามบ่อยครั้ง แต่ปัจจุบันแฟนสาวได้ลาออกไปเป็นแม่บ้านย่านทองหล่อโดยในวันเกิดเหตุตนมี เรื่องชกต่อยกับเพื่อนชาวพม่าที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และมีอาการมึนเมาเนื่องจากดื่มเบียร์ไป 5 ขวด โดยหลังจากชกต่อยกับเพื่อนชาวพม่า ก็ยังคงมีอารมณ์ฉุนเฉียว จึงเดินทางมาที่ร้านอาหารที่ตนทำงานอยู่เพื่อมาดักรอเฮียบุญก่อนเข้าไปถาม ว่าชอบหาเรื่องนักใช่ไหม จนเกิดการชกต่อยกัน แต่ตนสู้ไม่ได้ จึงเอามีดปลอกผลไม้ที่พกมาด้วยแทงเฮียบุญไปทั้งหมด 5 แผล แต่ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 21 พ.ย.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุขผกก.สน.วัดพระยาไกร แถลงผลการจับกุม นายกุ๋ย เหล่ากวาง อายุ 32 ปี ชาวเวียดนามผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.740/2557 พร้อมของกลางกางเกงยีนส์ 1 ตัว เสื้อโปโลสีเขียว 1 ตัว รองเท้ากีฬายี่ห้อไนกี้ 1 คู่ มีดทำครัว 1 เล่ม หลังจากเมื่อวันที่ 19 พ.ย. เวลาประมาณ 19.25 น. ใช้อาวุธมีดแทงนายประดิษฐ์ หรือเฮียบุญ โชติช่วง อายุ 54 ปี เจ้าของบริษัทไทยซิตี้ อัมเบลล่า ถึงแก่ความตายบริเวณลานจอดรถข้างร้านอาหารบีโอเคถนนเจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลมก่อนจะหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ผ่ายสืบสวน บก.น.5 ร่วมกับ สน.วัดพระยาไกร ได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณสถานีขนส่งรังสิตขณะอยู่บนรถ ปลายทาง จ.ขอนแก่น

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: จับเวียดนามแทงเสี่ยบริษัทร่ม

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เด็กมหาสารคามป่วยเป็นไข้หวัดเพียบ

888686หากพบเด็กมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น มีอาการซึม ไม่ร่าเริงมีอาการหายใจเสียงดังครืดคราด มีเสมหะในคอ เด็กไม่สามารถไอแรง ๆ ให้เสมหะหลุดออกมาจากหลอดลมได้ หรือเด็กมีอาการไอถี่จนบางครั้งมีอาเจียนออกมาเป็นเสมหะเหนียว ๆ ให้รีบนำตัวมาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการและรักษา ก่อนที่จะมีอาการลุกลาม ทั้งนี้การดูแลเบื้องต้นแพทย์ได้แนะนำให้เด็กดื่มน้ำอุ่นเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เสมหะเหนียวข้นไปอุดตันระบบทางเดินหายใจได้ หากบุคคลในบ้านป่วยด้วยโรคไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วย ให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ป้องกันเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนจากการสัมผัสและไม่ควรใช้ของร่วมกันเมื่อวันที่ 21 พ.ย. นพ.คิมหันต์ ยงรัตนกิจ สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ระยะนี้สภาพอากาศโดยทั่วไปในพื้นที่ มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างรวดเร็ว โดยช่วงกลางวันและช่วงหัวค่ำ อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว แต่ช่วงกลางคืนสภาพอากาศกลับเย็นจัด เด็กส่วนใหญ่เผลอหลับโดยไม่ห่มผ้า ส่งผลให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ล้มป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ไข้หวัด ปอดบวม โดยขณะนี้มีผู้ป่วยเด็กแรกเกิด จนถึงอายุ 10 ขวบ ทยอยเข้ามารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล เฉลี่ยรวมไม่ต่ำกว่าวันละ 300 ราย จนทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งต้องเสริมเจ้าหน้าที่ และจัดช่องทางด่วนสำหรับผู้ป่วยเด็ก สำรองยาและเวชภัณฑ์รองรับผู้ป่วยที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: เด็กมหาสารคามป่วยเป็นไข้หวัดเพียบ

หนีเด็กแว้นพลัดตกหลังคาถูกเหล็กเสียบ

888647เจ้าหน้าที่ได้ใช้อุปกรณ์ตัดถ่างทำการตัดก้านรั้วเหล็กดัดที่เสียบทะลุขา ก่อนช่วยกันพยุงตัวลงมาจากกำแพงอย่างทุลักทุเล จากนั้นได้รีบนำตัวส่งรพ.ให้การรักษา พี่ชายของด.ช.บอย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุพากันขี่รถไปร้านสะดวกซื้อ ระหว่างทาง ได้มีกลุ่มเด็กแว้นขับขี่รถจยย.6-7 คัน ขับขี่สวนทางมา ก่อนจะวกกลับเข้ามารุมทำร้าย จึงพากันแยกย้ายหลบหนี โดยน้องชายได้ปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านที่เกิดเหตุ แต่เกิดพลาดพลัดตกลงมาใส่รั้วและจนถูกเหล็กเสียเข้าที่ขาเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 21 พ.ย. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรีได้รับแจ้ง มีคนพลัดตกจากหลังคาลงมาถูกเหล็กแหลมเสียบทะลุขา ห้อยติดอยู่ข้างกำแพง ได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมกับทีมแพทย์ฉุกเฉิน รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี รีบรุดให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ในที่เกิดเหตุพบร่างของ ด.ช.บอย (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ถูกรั้วเหล็กดัดปลายแหลมเสียบเข้าที่โคนขาขวาจนทะลุได้รับบาดเจ็บสาหัส

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: หนีเด็กแว้นพลัดตกหลังคาถูกเหล็กเสียบ

'บิ๊กป๊อก' ชี้ เห็นต่างเรื่องปกติ ไม่ถือ นศ.ชู 3 นิ้ว

EyWwB5WU57MYnKOuFIwC3bO3kOCjaE0r2R20lHUIiUsbNboQUcBY5eเมื่อถามว่า คนที่เห็นต่างจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีการแสดงออกอย่างไรถึงจะยอมรับได้ เพราะการชู 3 นิ้วก็ยังไม่สามารถทำได้ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกับการชู 3 นิ้ว นักข่าวไปลงกันเอง นัยที่เกิดขึ้น คือ นายกฯ ไปพบกับประชาชน ซึ่งประชาชนก็เรียบร้อยกันหมดทุกส่วน การมีคนเข้ามา จะให้ทำอย่างไร นอกจากการเอาตัวออกไป

"ท่านต้องเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะไปยืนจุดไหน ถ้ายอมส่วนนี้อีกสีก็จะออกมาจะทำอย่างไร ก็ต้องพยายามที่จะเข้าใจว่า ขณะนี้รัฐบาลไม่ใช่คู่ขัดแย้ง มันมีปัญหากันทั้งประเทศ อย่างที่รู้ดีอยู่ ซึ่งทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไม่ได้ เราก็เข้ามาเพื่อหยุดปัญหาเหล่านั้น โดยใน 1 ปี รัฐบาลพยายามจะเขียนรัฐธรรมนูญให้เสร็จ และแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างให้เรียบร้อยเท่าที่ทำได้ แล้วให้คนใหม่มาว่ากัน คนเห็นต่างก็เห็นไป เราก็พยายามอธิบายว่าเราทำอะไรได้บ้าง คงแค่เรียกมาพูดคุย" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าววันที่ 20 พ.ย. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึง กรณีที่มีคนเห็นต่างจะเป็นอุปสรรค หรือมีผลต่อการลงพื้นที่อื่นๆ ในครั้งต่อไปหรือไม่ ยืนยันว่าคงเป็นไม่ได้ที่จะให้ทุกคนเห็นเหมือนกันหมด เพราะฉะนั้นการเห็นต่างจึงเป็นเรื่องปกติ การแสดงออกเล็กน้อย ก็อย่าไปถือสา เราก็จะพูดให้เขาเข้าใจ เพราะเราอยู่ร่วมกัน ไม่น่าจะมีผล ไปพื้นที่ไหนก็จะมีคนเห็นต่าง พูดง่ายๆ ร้อยคนก็เห็นไม่เหมือนกันทั้งร้อยคนแต่หน้าที่เราต้องสร้างความเข้าใจว่าเรา ทำหน้าที่อะไรอยู่ เช่น ทำไปด้วยความมุ่งมั่นเพื่อจะให้ประชาชน ได้มีคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจที่ดี โดยไม่ได้ทำด้วยอคติ ตอนนี้ประเทศชาติจะต้องเดินตามโรดแม็ปเท่านั้น การเลือกตั้งก็เกิดไม่ได้เพราะยังไม่มีกฎหมาย ต้องรอให้คณะกรรมาธิการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญก่อน เสร็จแล้วจึงค่อยมาทำกฎหมายลูก จึงจะสามารถจัดให้มีการเลือกตั้งได้

แหล่งที่มา  :  ไทยรัฐ

Resource: 'บิ๊กป๊อก' ชี้ เห็นต่างเรื่องปกติ ไม่ถือ นศ.ชู 3 นิ้ว

คชก.ลงมติ ไม่สร้างแม่วงก์

EyWwB5WU57MYnKOuFIwDmMtSTdKYfY1JLdxdQmi3lxQ6QD7d7pCmZhส่วนกรณีที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทำหนังสือถึงสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) คัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ โดยระบุว่าเป็นพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์นั้น นายเลิศวิโรจน์ระบุว่า ก็เป็นความเห็นหนึ่งในการประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ก็ต้องมาหาข้อสรุปที่ยอมรับได้ร่วมกันต่อไป

ขณะที่นายสมเกียรติ ประจำวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน กล่าวว่า กรณีอธิบดีกรมอุทยานฯทำหนังสือว่าไม่ควรสร้างเขื่อนแม่วงก์ เป็นธรรมดาที่เจ้าของพื้นที่ต้องรักษาสิทธิพื้นที่ในความรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม กรม ชลประทานต้องนำข้อเท็จจริงมาดูว่า ประเด็นของ กรมอุทยานฯนั้นจริงหรือไม่ เพราะประเด็นที่ถกเถียงกันคือ งานวิจัยเรื่องมูลค่าไม้ในป่า ตรงนี้ที่หาข้อสรุประหว่าง 3 ฝ่าย คือ กรมชลประทาน กรมอุทยานฯ และ สผ. ไม่ได้ จะต้องหาหน่วยงานกลาง หรือผู้เป็น กลางที่มีความรู้ มาศึกษาเรื่องนี้เพิ่มเติมให้ได้ข้อสรุป ก็คงต้องบอกให้ได้ว่า ที่ว่ารายงานอีเอชไอเอ ของกรมชลประทาน ไม่สมบูรณ์นั้นเป็นอย่างไร

“ในที่ประชุม คชก. แต่ละฝ่ายก็ให้คำจำกัดความไม่เหมือนกันเรื่องพื้นที่ป่า ดังนั้น กรมชลฯจะกลับ ไปดูว่าแล้วรายงานการศึกษาฉบับอื่นๆที่เคยทำมาก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร แต่มั่นใจว่าประเด็นทางเทคนิค ด้านปริมาณน้ำ เรายืนยัน อ่างเก็บน้ำเป็นวิธีการที่ต้องเข้าไปแก้ไขพื้นที่ 300,000 ไร่ ที่เป็นพื้นที่ที่ยังขาดน้ำไม่น้อยกว่า 150 ล้านลูกบาศก์เมตร ต้องคุยกับกรมอุทยานฯว่าประเมินมูลค่าจะเอาแค่ไหน ถ้าข้อมูลเราถูก คุ้มค่า ก็เป็นประโยชน์ของชาวบ้าน ถ้าตรงไหนไม่ถูก เช่น การประเมินมูลค่าป่า ต้องทำตรงไหน ก็ไปว่ากัน หากมีข้อขัดแย้งบ้าง ก็ยังต้องโยนเข้า คชก. อีกครั้งหนึ่ง” นายสมเกียรติกล่าว

“ไม่ใช่ว่าพอไม่มีเขื่อนแม่วงก์แล้ว ปัญหาของชาวบ้านจะหมด เพราะพื้นที่นั้นจะมีทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้งกินพื้นที่กว้างประมาณ 1 ล้านไร่ ซึ่งผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้มี 4 หน่วยงานหลัก คือ 1. กรมชลประทาน 2.กรมทรัพยากรน้ำ 3.กรมโยธาธิการ และ 4.ส่วนท้องถิ่น หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในเวลานี้ คือกรมชลประทาน ไม่เคยทำโครงการเล็กๆ ในพื้นที่ขนาดใหญ่เลย เพราะ ติดขัดในเรื่องกฎหมาย ส่วนกรมทรัพยากรน้ำก็ทำเฉพาะโครงการเล็กๆในพื้นที่ย่อยๆ ไม่เคยทำเรื่องใหญ่ๆเลย ขณะเดียวกัน กรมโยธาธิการก็ทำเรื่องเฉพาะจุด ดังนั้น หากรัฐบาลไม่มีนโยบายที่ชัดเจน สำหรับเข้าไปแก้ปัญหาตรงนี้ ปัญหาก็จะยังคงเกิดในพื้นที่ตลอดไป” นายศศินกล่าวและว่า จากการศึกษาของมูลนิธิสืบฯพบว่า การสร้างแหล่งน้ำขนาดเล็กผ่านเข้าไปในพื้นที่ที่มีปัญหา จะสามารถลดผลกระทบ ทั้งจากน้ำท่วมและน้ำแล้งได้ วิธีการดังกล่าวทำให้ประชาชนเข้าถึงน้ำได้มากกว่าระบบชลประทาน แต่เวลานี้ยังไม่มีระบบโครงข่ายอะไร เพื่อขยายทาง หรือแหล่งน้ำขนาดเล็ก เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีปัญหาเข้าถึงได้เลย เรื่องนี้เป็นหน้าที่ที่มูลนิธิสืบฯจะต้องผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาต่อไป

ด้านนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรม ชลประทาน กล่าวถึงเรื่องเขื่อนแม่วงก์ว่า หลังจาก คชก.ตีกลับรายงานผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (อีเอชไอเอ) โครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ของกรมชลประทานก็พร้อมจะนำอีเอชไอเอกลับมาศึกษาเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง แต่จะคงไม่หยุดดำเนินงานของโครงการกรมชลประทานคงไม่หยุดในชั้นนี้ เพราะเสียเงินเสียทองเดินหน้าศึกษาโครงการไปแล้ว แต่จะได้ก่อสร้างเขื่อนหรือไม่ ขึ้นกับนโยบายของรัฐบาล

ส่วนกรณีที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทำหนังสือถึงสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) คัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ โดยระบุว่าเป็นพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์นั้น นายเลิศวิโรจน์ระบุว่า ก็เป็นความเห็นหนึ่งในการประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ก็ต้องมาหาข้อสรุปที่ยอมรับได้ร่วมกันต่อไป

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พ.ย. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) พิจารณารายงานผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม(อีเอชไอเอ) โครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการ คชก.มีมติไม่สร้างเขื่อน แม่วงก์แล้ว เนื่องจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานฯได้ทำหนังสือคัดค้านการสร้างเขื่อนในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีป่าที่สมบูรณ์มากกว่าที่จะปล่อยให้มีการสร้างเขื่อน รวมทั้งในอนาคตจะผนวกอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เป็นพื้นที่มรดกโลก รวมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งซึ่งเป็นป่าผืนเดียวกัน เมื่อเจ้าของพื้นที่มีมติ ไม่เห็นด้วยให้เข้าไปใช้พื้นที่ ก็ถือว่าได้ข้อยุติว่าไม่ควรสร้าง อย่างไรก็ตาม เพราะว่าโครงการสร้างเขื่อน แม่วงก์เป็นโครงการที่เสนอโดยรัฐบาล คือ กรมชลประทาน ในอนาคตกรมชลประทานสามารถไปทำข้อมูลมาใหม่ เพื่อให้คณะกรรมการฯพิจารณาได้อีกครั้ง แต่กรมชลประทานควรจะไปคุยในรายละเอียดของพื้นที่ป่าในอุทยานแห่งชาติให้ได้ ตัวเลข และสถานการณ์ต่างๆ ตรงกันก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุม หากจะนำมาเสนออีกครั้ง

ส่วนนายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งที่คณะกรรมการฯได้ข้อสรุปออกมาแบบนี้ ตนมั่นใจว่าหากไม่มีการเปลี่ยนตัวเลขาธิการ สผ.หรือเปลี่ยนประธาน คชก.เป็นคนอื่น เรื่องของเขื่อนแม่วงก์คงจะยังไม่มีขั้นตอนอะไรเกิดขึ้นมาอีกแล้ว อย่างไร ก็ตาม เรื่องของการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ยังคงต้องมีต่อไป ซึ่งหลังจากนี้มูลนิธิสืบฯจะต้องทำต่อคือ การผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปจัดการน้ำทางเลือก หรือการสร้างแหล่งน้ำขนาดเล็ก สำหรับพื้นที่ที่มีปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้งในบริเวณนั้นต่อไป

ไม่สะเด็ดน้ำ สร้าง-ไม่สร้าง “เขื่อนแม่วงก์” 2 หน่วยงานรัฐ “กรมอุทยานแห่งชาติ-กรมชลประทาน” ยังเห็นต่างเหมือนเดิม หลัง คชก.มีมติไม่สร้างเขื่อนแม่วงก์ ชี้เป็นป่าสมบูรณ์ ขณะที่กรมอุทยานแห่งชาติฯไม่ให้ใช้พื้นที่อุทยานเตรียมผนวกเป็นพื้นที่มรดก โลกกับห้วยขาแข้ง ด้าน “กรมชลประทาน” ยันไม่หยุด เตรียมนำอีเอชไอเอ เขื่อนแม่วงก์ กลับมาศึกษาต่อให้ได้ข้อสรุป อ้างเสียงบประมาณศึกษาโครงการไปแล้ว พร้อมถกกรมอุทยานฯ ประเด็นคาใจเรื่องการประเมินมูลค่าป่า ส่วนจะได้ก่อสร้างหรือไม่เป็นเรื่องของนโยบายรัฐบาล ชี้อ่างเก็บน้ำช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้านในพื้นที่ 300,000 ไร่ ที่ยังขาดแคลนน้ำ

หลังจากที่นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกมาคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ อีกครั้ง ด้วยการปักหลักนอนค้างที่หน้าสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 17-19 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อมาให้กำลังใจคณะกรรมการพิจารณาโครงการด้านแหล่งน้ำ ในการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) โครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ที่มีขึ้นในวันที่ 19 พ.ย.ซึ่งสุดท้ายที่ประชุมได้ให้สองหน่วยงานคือกรมอุทยานแห่งชาติฯ เจ้าของพื้นที่ที่ตั้งเขื่อนแม่วงก์ และกรมชลประทาน เจ้าของโครงการเขื่อนแม่วงก์ ไปพูดคุยศึกษาข้อมูลอีกครั้ง

แหล่งที่มา  :  ไทยรัฐ

Source: คชก.ลงมติ ไม่สร้างแม่วงก์

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ไฟไหม้รถน้ำมันวอด3คันรวด

887826สอบสวน นายคำมา คำมูล อายุ 57 ปี เจ้าของโรงเก็บน้ำมัน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถน้ำมันขนาดใหญ่ไปรับน้ำมัน จำนวน 40,000 ลิตร มาจาก จ.สระบุรี โดยเป็นน้ำมันดีเซล 32,000 ลิตร และเบนซินอีก 8,000 ลิตร จากนั้นจึงนำน้ำมันดังกล่าวมาถ่ายแบ่งลงบนรถบรรทุกน้ำมัน 6 ล้อ จำนวน 3 คัน เพื่อนำไปส่งต่อให้กับลูกค้า แต่ระหว่างที่กำลังถ่ายน้ำมันอยู่นั้น ได้เกิดประกายไฟจากรถบรรทุกน้ำมัน 6 ล้อซึ่งเป็นรถเปล่า จนเกิดเพลิงลุกไหม้ลามมาตามสายส่งน้ำมัน และเกิดไฟลุกไหม้รถทั้ง 3 คันอย่างรวดเร็ว ตนพยายามที่จะเข้าไปถอดสายน้ำมันที่พ่วงอยู่กับรถน้ำมันคันใหญ่ออกแต่ก็ไม่เป็นผล และยังทำให้ตนได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวกที่เท้าด้วย โชคดีที่บุตรชายได้วิ่งมาขับรถน้ำมันคันใหญ่ออกจากที่เกิดเหตุ ทำให้สายน้ำมันที่พ่วงกันอยู่นั้นขาดออก ไฟจึงไม่ลุกลามเข้าถังน้ำมันขนาด 40,000 ลิตร แต่ไฟไหม้เพียงส่วนหัวรถเท่านั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นต่อไป ส่วนค่าความเสียหายคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาทเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 พ.ย. ร.ต.อ.สุภาพ เงินแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถบรรทุกน้ำมัน ที่โรงเก็บน้ำมันคำมูลปิโตเลี่ยม เลขที่ 213 หมู่ 2 ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงจากป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พิษณุโลก และพื้นที่ใกล้เคียงจำนวนหลายคัน ในที่เกิดเหตุพบเพลิงได้กำลังลุกไหม้รถบรรทุกน้ำมัน จำนวน 3 คัน ทางเจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำและโฟมเพื่อหล่อเลี้ยงป้องกัน ไม่ให้น้ำมันที่อยู่ในถังเกิดความร้อนจนเกิดระเบิดได้ หลังใช้เวลานานกว่า 1 ชม. จึงจะสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: ไฟไหม้รถน้ำมันวอด3คันรวด

ฟาร์กรับข้อเสนอรบ.โคลอมเบียเตรียมปล่อยตัวประกัน

887873ก่อนหน้านี้ นายฮวน มานูเอล ซานโตส ประธานาธิบดีโคลอมเบีย สั่งระงับการเจรจาสันติภาพที่จะมีขึ้นที่กรุงฮาวานาเมืองหลวงของคิวบาอย่างไม่มีกำหนด หลัง พล.อ.อัลซาเต ถูกจับตัวไป ซึ่งทางการกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของกลุ่มกบฏฟาร์ก และประกาศชัดเจนว่าจะไม่มีการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้นจนกว่าตัวประกันจะถูกปล่อย โดยเมื่อช่วงเช้าวันพุธ กลุ่มกบฏฟาร์แสดงเจตจำนงว่าต้องการให้มีการเจรจาต่อไป

ในการเจรจาที่ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ในเรื่องการปฏิรูปที่ดิน การมีส่วนร่วมทางการเมืองเมืองของกลุ่มกบฏ รวมถึงการร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งโคลอมเบียนับเป็นประเทศผู้ผลิตโคเคนรายใหญ่ที่สุดของโลก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีประเด็นที่ยังไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ ทั้งเรื่องการวางอาวุธของกบฏฟาร์ก รวมถึงการดำเนินคดีทางกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มกบฏ ในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและอาชญากรรมอื่นๆสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮาวานา ประเทศคิวบา เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ว่า เจ้าหน้าที่ตัวแทนจากคิวบาและนอร์เวย์ ในฐานะผู้ประสานงานการเจรจาสันติภาพ ระหว่างรัฐบาลโคลอมเบียและกองกำลังปฏิวัติโคลอมเบีย หรือกบฏฟาร์ก ออกแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อช่วงค่ำวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันให้มีการปล่อยตัว พล.อ.รูเบน ดาริโอ อัลซาเต นายทหารผู้ติดตาม 1 นาย และทนายความ 1 คนที่ถูกจับตัวไปพร้อมกันเมื่อไม่กี่วันมานี้ รวมถึงทหารอีก 2 นาย ที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะกลับสู่การเจรจาสันติภาพระหว่างกันต่อไป แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมถึงกำหนดการและเงื่อนไขในการปล่อยตัว ระบุเพียงว่าคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ไอซีอาร์ซี) จะทำหน้าที่ประสานงานในการรับมอบตัวประกันเช่นที่ผ่านมา

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: ฟาร์กรับข้อเสนอรบ.โคลอมเบียเตรียมปล่อยตัวประกัน

5นศ.บุกชู3นิ้วต้าน ‘บิ๊กตู่’แซว นึกว่าแสดงต้อนรับ

EyWwB5WU57MYnKOuFIwDE5TqwA3Wvg07EgvhKWyrmtt9dwPZVlEAOdเล็งเอา ก.ม.ลูกของเก่ามารีไซเคิล

นายเจษฎ์ โทณะวณิก กรรมาธิการยกร่างฯ และประธานคณะอนุกรรมาธิการจัดทำข้อเสนอแนะในการตราหรือแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า การออกกฎหมายลูกที่ใช้เป็นกติกาเลือกตั้ง ขอให้เป็นไปตามกรอบเวลา หากทำไม่เสร็จตามเวลาอาจต้องยืดเวลาออกไปอีก ซึ่งแนวทางทนายบวรศักดิ์ให้ไว้คือ ระหว่างที่มีการยกร่างรัฐธรรมนูญ คณะที่ทำงานเกี่ยวกับกฎหมายลูกต้องทำงานคู่ขนานไปด้วย ทั้งนำกฎหมายลูกฉบับเก่ามาพิจารณาปรับปรุง หรือหากจำเป็นต้องยกร่างกฎหมายขึ้นใหม่ก็ต้องเร่งทำควบคู่กันไป ส่วนตัวเห็นว่าสามารถนำฉบับเก่ามาพิจารณาปรับปรุงสาระไม่มากนัก เพราะมีบทบัญญัติที่ดีอยู่แล้ว แต่ปัญหาสำคัญคือต้องนำบทบัญญัติที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างไร
ถึงคิว ชพน.—พช.ให้ความเห็น

ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานการประชุม โดยเชิญตัวแทนพรรคชาติพัฒนา ได้แก่ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ บุญชัยสุข เลขาธิการพรรค และตัวแทนพรรคพลังชล ได้แก่ นายสันต์ศักย์ งามพิเชษฐ์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังชล นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี ร่วมให้ความเห็น โดย นพ.วรรณรัตน์กล่าวก่อนเข้าประชุมว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย ส่วนการรับฟังความเห็นประชาชนที่ยังติดปัญหาเรื่องกฎอัยการศึกนั้น เห็นว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อการรับฟังความคิดเห็นถ้าพิจารณาผ่อนปรนได้ ก็ควรให้ตามความเหมาะสม

ขณะที่นายสันต์ศักย์กล่าวว่า พรรคพลังชลพร้อมสนับสนุนการปฏิรูป ขอให้ผู้มีอำนาจปฏิรูปให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นกลางกับทุกฝ่าย ส่วนกฎอัยการศึกนั้น ยอมรับว่าเป็นปัญหาอยู่บ้างในการระดมความคิดเห็นเพื่อปฏิรูป เร็วๆนี้พรรคพลังชลจะทำหนังสือถึง คสช. ขออนุญาตประชุมพรรค การเมือง เพื่อระดมความเห็นเสนอแนะเรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญ
ชี้คำสั่งตั้ง “มีชัย” ไม่ใช่เรื่องลึกลับ

เมื่อถามว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ คสช. ระบุว่า กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญไม่ต้องรีบเขียน จะเสียของ หมายความว่าอย่างไร นายวิษณุตอบว่า หมายถึงรัฐธรรมนูญ จะยกร่างเสร็จประมาณเดือน ส.ค.หรือ ก.ย.2558 และอีกประมาณ 3 เดือนถึงจะมีการเลือกตั้ง จึงต้องทำกฎหมายลูกที่สำคัญให้เสร็จก่อน ประกอบด้วย กฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายการเลือกตั้ง กฎหมายคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่วนกฎหมายลูกที่เหลืออะไรสำคัญก็ทำให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง อย่าหวังว่ารัฐบาลที่เลือกตั้งเข้ามาจะมาทำต่อ เหมือนรัฐธรรมนูญปี 50 ผ่านไป 7 ปีมีกฎหมายลูกออกมาได้แค่ 3 ฉบับ จาก 20-30 ฉบับ ส่วนการทำประชามติรัฐธรรมนูญนั้นไม่มีใครไม่เห็นด้วย หากสังคมเรียกร้องและคิดว่ามีประโยชน์ก็ทำ ส่วนการตั้งนายมีชัย ให้ช่วยติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญ ไม่แปลกไม่ได้ลึกลับอะไร ท่านมีสติปัญญาช่วยเราได้ มีอะไรก็แนะนำคณะที่ปรึกษา คสช. ไม่ได้ไปแนะนำคณะกรรมาธิการยกร่างฯ
เอาแน่หั่นอำนาจองค์กรอิสระ

เมื่อถามว่า องค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง หากไม่ยกเลิกจะปรับแก้ไขอำนาจหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า กรรมาธิการยกร่างฯคงมีความคิดอยู่ เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดให้ทบทวนความจำเป็นของการมีองค์กรต่างๆ เป็นการฝากให้กรรมาธิการยกร่างฯได้คิดตรงนี้ ไม่ใช่ว่าเคยมีแล้วต้องมีต่อไป มีต่อก็ได้แต่อาจต้องเปลี่ยนองค์ประกอบ เปลี่ยนอำนาจ เปลี่ยนหน้าที่ เช่น กกต.จำเป็นต้องมี แต่องค์กรเดียวควรมีทั้ง 3 อำนาจหรือไม่ กรรมาธิการยกร่างฯต้องเอาไปคิด ไม่ใช่ว่าองค์กรอิสระจะเหลิงอำนาจกัน แต่ไปให้อำนาจเขาเอง ให้อำนาจไว้ก็ต้องใช้ ถ้าไม่ใช้จะมีคนบอกว่าเสียของอีก ดังนั้นไม่ควรให้อำนาจองค์กรอิสระตั้งแต่แรก เมื่อถามว่าในวงหารือ 5 ฝ่าย คุยเรื่องกฎอัยการศึกอย่างไรบ้าง นายวิษณุตอบว่า มีการพูดกันนิดหน่อยว่าเป็นอุปสรรคหรือไม่ ทุกฝ่ายก็เห็นว่าไม่ได้เป็นอุปสรรค ทุกอย่างยังคงดำเนินไปได้ปกติ และ คสช.รับจะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาเอง
“บวรศักดิ์” รับลูกตามงานอนุฯ

ที่รัฐสภา นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธาน สปช. และประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดว่าจะนำความเห็นของ พล.อ.ประยุทธ์ในที่ประชุม 5 ฝ่าย หารือในกรรมาธิการยกร่างฯเพื่อกำหนดแนวทางหรือปรับแนวทางหรือไม่ ซึ่งวันที่ 1 ธ.ค. จะติดตามงานของคณะอนุกรรมาธิการพิจารณากรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญทั้ง 10 ประเด็น
ยึด คอป.ไม่ใช้เหลี่ยมกฎหมาย

นายกฯกล่าวอีกว่า รัฐบาลไม่เข้าไปยุ่ง ไม่มีธงหรือสั่งการใดๆทั้งสิ้นกับ สนช. สปช. ตนเห็นด้วยข้อเสนอนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่บอกว่า การใช้กฎหมายเข้าไปแก้ปัญหาการเมืองมันอันตราย ต้องระมัดระวัง ต้องไปศึกษา ตนไปชี้นำไม่ได้ ไปดูว่าความขัดแย้งทางการเมือง ประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ รัฐบาลควรทำตัวอย่างไร การบังคับใช้กฎหมายบางทีมันก็เป็นปัญหา ถ้าไม่ทำเจ้าหน้าที่ก็โดนละเว้น ถ้าไม่ทำมันก็จะแรงเกินไป และถ้ามีใครไม่หวังดีทำให้ความรุนแรงเกิดขึ้น มันก็วุ่นวายกันไปหมด สิ่งเหล่านี้ต้องไม่เกิดขึ้นในอนาคต ต้องเอาผลประโยชน์ประเทศ ชาติเป็นหลัก เมื่อถามว่า จะมีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายกฯตอบว่า ขึ้นกับสถานการณ์ ถ้าทุกคนร่วมมือก็ไม่มีปัญหา
ลั่นไม่มีวางเกมสืบทอดอำนาจ

“ให้ใช้หลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว มีเหตุมีผล มีสติรับรู้รับฟัง ผมจึงเตือนตนเองอยู่เสมอว่า ต้องมีสติ แม้เวลาตอบคำถามสื่อมวลชนต้องระมัดระวัง ขอความเห็นใจด้วย ให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วยเวลาถาม เมื่อผมเข้ามาแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนมานาน รื้อออกยังไม่ทันทำอะไรก็มาว่ากันแล้ว ผมจะเอากำลังใจที่ไหนทำ มีใครกล้ารื้อสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาบ้าง ทั้งเรื่องป่าไม้ การจัดระเบียบ โครงการใหม่ๆที่ป้องกันการทุจริต เราฟังเสียงประชาชนทุกวัน ที่สำคัญไม่ได้เข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์ ไม่ต้องการอำนาจ และไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ อย่าไปเขียนจนมันเลอะเลือนไปหมด ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน อย่างนี้มันไม่ได้ โอเคไหม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
“วิษณุ” เชื่อโฉม รธน.ใหม่ไร้ปัญหา

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลการหารือ 5 ฝ่าย ที่นายกฯให้เร่งผลักดันการออกกฎหมาย ว่าอยู่ที่ต้นทางคือเจ้ากระทรวงต้องเร่งส่งมาให้ ครม.เห็นชอบ และต้องส่งไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ ถ้าตรวจแล้วใช้เวลานานจน สนช.ไม่อยู่แล้ว คงมีบ้างที่ไม่ทันโทษใครไม่ได้เพราะทำช้าเอง นายกฯกำชับแล้วว่า สปช.จะปฏิรูปอะไรต้องมีกฎหมายออกมา ไม่ใช่เพ้อไปเรื่อย ถ้า สปช.ทำอะไรได้ก็ทำ ไม่ต้องมารอรัฐบาล ซึ่ง คสช.คงรับทราบความคืบหน้าจากคณะกรรมาธิการยกร่างฯทุกสัปดาห์ จะได้มาคุยกันว่าจะเสนอแนะอะไรอีกบ้างหรือไม่ ทุกคนรู้ปัญหาเก่าดีกว่าที่ผ่านมาว่ามีปัญหาอะไรบ้าง คงไม่ร่างแบบกลับไปหาปัญหาเก่าอีก
กระชับ 5 ฝ่ายเดินตามโรดแม็ป

เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเครื่องไปตรวจราชการภัยแล้งที่ จ.ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ ถึงการประชุมร่วม 5 ฝ่าย ได้แก่ คสช. คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ว่าเป็นการพูดคุยทำความเข้าใจในทางปฏิบัติ ทำอย่างไรให้การปฏิรูปประเทศเรียบร้อย เป็นไปตามโรดแม็ปที่วางไว้ ให้ 5 ส่วนทำงานร่วมกันภายใต้นโยบายเดียวกัน คือการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน วางพื้นฐานประเทศระยะยาว ที่เกี่ยวพันในเรื่องของกฎหมาย รัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูก ที่ต้องออกให้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นการปฏิรูปจะไม่เป็นรูปธรรม หากมีเลือกตั้งแล้วกฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่เรียบร้อย ปัญหาก็จะแก้ไม่ได้เหมือนเดิม “โอเคนะ เข้าใจนะ อธิบายยาวไม่เข้าใจกันอีกซิ”
ห่วง ก.ม.ภาษีมรดกกระทบคนจน

เมื่อถามว่า พอใจการทำงานแต่ละฝ่ายขนาดไหน พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า พอใจ วันนี้ต้องเห็นใจ สนช.มีกฎหมายเข้าไปกว่า 170 ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐบาล และคณะกรรมการกฤษฎีกากว่า 20 ร่าง และอีกกว่า 100 ฉบับ กระทรวงกำลังทยอยส่งมา อย่างร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดกต้องใช้เวลาอีกกว่า 3 เดือน เพราะต้องมาถกกันอีกเพื่อหาข้อยุติ ว่าทำให้เกิดความเป็นธรรมได้อย่างไร มีส่วนได้ส่วนเสียตรงไหน เห็นข่าวชาวไร่ ชาวนา เกรงจะเดือดร้อน ต้องขายนามาจ่ายภาษี ต้องไปหาวิธีช่วยเหลือกันได้อย่างไร รัฐบาลคิดทุกประเด็น ไม่ใช่ว่าอยากจะออกอะไรก็ออกไป เราต้องทำให้ทุกคนพึงพอใจ ที่สำคัญเป็นกฎหมายที่ต้องออกตามยุทธศาสตร์ลดความเหลื่อมล้ำ

แหล่งที่มา  :  ไทยรัฐ

Source: 5นศ.บุกชู3นิ้วต้าน ‘บิ๊กตู่’แซว นึกว่าแสดงต้อนรับ